ยังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุการปะทะอย่างดุเดือดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี จนมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย
ทำให้ต่อมาทั้งสองฝ่ายมีการตรึงกำลังของทหารทั้ง 2 ประเทศ ท่ามกลางความหวาดผวาของคนในพื้นที่ จนต่อมา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ของไทย และ พล.อ.เหมา โสพัน ผบ.ทบ.ของกัมพูชาได้หารือร่วมกัน พร้อมมีข้อตกลงสรุปให้แต่ละฝ่ายถอยออกพื้นที่ทับซ้อนฝ่ายละ 200 เมตร พร้อมรอคณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องแผนที่พื้นที่ทับซ้อน
แต่ความคุกรุ่นยังไม่จบ เมื่อสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ของตนเอง พร้อมยืนยันสามเหลี่ยมมรกตเป็นดินแดนกัมพูชา และจะไม่ถอนทหาร พร้อมท้าขึ้นศาลโลก และโชว์หลักฐานเคยไปถ่ายรูปเมื่อ 15 ปีก่อน
โดยทางรัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าไทยจะใช้ 3 กลไกเจรจากัมพูชา ถก JBC ให้เร็วที่สุด เพื่อคลายความตึงเครียดชายแดนและยึดหลักกฎหมายสากลทุกขั้นตอน
ล่าสุด (2 มิ.ย.2568) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมแนบแถลงการณ์จากสมาชิกรัฐสภาและวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
ระบุว่า เหตุการณ์ที่กองกำลังของราชอาณาจักรไทยใช้อาวุธโจมตีฐานทหารกัมพูชาในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ถือเป็นการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างร้ายแรง และเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ ท่ามกลางความพยายามของกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนผ่านสันติวิธีและกระบวนการทางการทูต
สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้แสดงจุดยืนแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ พร้อมสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลทั้งในเวทีทวิภาคีและพหุภาคี พร้อมยกย่องความอดทนและท่าทีของสมเด็จฯ นายกรัฐมนตรี ที่เลือกใช้ช่องทางสันติและยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงการยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ขอประณามการกระทำของกองกำลังไทย ว่าเป็นการรุกรานและละเมิดอธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้ไทยยุติการกระทำดังกล่าวทันที และยึดถือการเจรจาโดยสันติวิธีเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขข้อพิพาท
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยเขตแดน (JBC) และคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (GBC) ยังคงมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการเจรจาร่วมกันระหว่างกัมพูชาและไทย เพื่อหาทางออกต่อข้อพิพาทดังกล่าวอย่างสันติวิธี
