จากกรณีเหตุการณ์ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น ที่กำลังก่อสร้างด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท บนถนนกำแพงเพชร 2 ใกล้ตลาดนัดส่วนจตุจักร พังถล่มลงมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต และสูญหายอีกจำนวนมาก จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา และมีการสอบสวนถึงการก่อสร้างอาคารดังกล่าวด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปี 2567 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กับพวก ทุจริตจ้างออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ วงเงิน 25.8 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2552 อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
* - พฤติการณ์การกระทำความผิด
คดีนี้ มีการระบุพฤติการณ์การกระทำความผิดว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ประกาศจ้างออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ โดยการประกวดแบบตามเอกสารประกาศเชิญชวน เลขที่ 009/2552 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้เสนองานโดยให้นิติบุคคลซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมในฐานะนิติบุคคลจากสภาสถาปนิก และใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในฐานะนิติบุคคลจากสภาวิศวกร แต่มีหุ้นส่วน กรรมการบริษัท หรือสมาชิกในคณะผู้บริหารนิติบุคคลจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือผู้มีอำนาจบริหารของนิติบุคคล ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมหรือวิศวกรรมควบคุม เป็นผู้มีสิทธิเสนองานได้
แต่สภาสถาปนิกได้มีหนังสือลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 ถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เสนอความเห็นให้ปรับแก้ไขข้อความเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนองานตามเอกสารประกาศเชิญชวน เลขที่ 009/2552 เป็นนิติบุคคลที่เสนองานจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมในฐานะนิติบุคคลจากสภาสถาปนิกด้วย ซึ่งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ในฐานะผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับทราบข้อทักท้วงดังกล่าวแล้ว แต่กลับไม่สั่งการให้แก้ไขคุณสมบัติของผู้ยื่น เสนองานหรือยกเลิกประกาศจ้างออกแบบดังกล่าว และเห็นชอบให้ดำเนินการจัดจ้างต่อไป
ทั้งที่ทราบดีว่าการกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนองานดังกล่าวฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 และเอื้อประโยชน์ให้กิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมหรือวิศวกรรมควบคุม ในฐานะนิติบุคคล เป็นผู้ผ่านคุณสมบัติให้เข้าเสนอราคาในขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกผู้ออกแบบ
คณะกรรมการดำเนินการจ้างได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนองานรวม 4 รายแล้ว มีความเห็นเสนอให้ดำเนินการจัดจ้างกลุ่มบริษัทดีไซน์ดีเวลลอป จำกัด ซึ่งได้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคสูงสุดเป็นลำดับที่ 1
แต่นายอุทัย ทองคุ้ม ประธานคณะทำงานกำหนดขอบเขตงาน (TOR) กลับมีบันทึกเสนอให้ทบทวนความเห็นของคณะกรรมการดำเนินการจ้างทั้งที่ไม่มีเหตุผลความจำเป็น และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการการจ้างโดยการประกวดแบบ คณะที่ 2 เพื่อทบทวนผลการพิจารณา
จนกระทั่งกิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้างออกแบบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ตามสัญญาจ้างเลขที่ 006/2553 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 วงเงิน 25,800,000 บาท ตามที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า
* - มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมพิจารณาสำนวนไต่สวนและมีมติดังนี้
1. การกระทำของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12
2. การกระทำของนายอุทัย ทองคุ้ม มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
3. การกระทำของกิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น และนายตระกูล เฮงบำรุง ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกิจการร่วมค้าฯ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ(2) และมาตรา 98แล้วแต่กรณีต่อไป
นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสองรวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับกระทำของกิจการร่วมค้าคาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น และนายตระกูล เฮงบำรุง ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นการทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
สำหรับงานออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่กรณีนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ สตง. เริ่มต้นทำโครงการเดิมบนที่ดินของกรมธนารักษ์ เนื้อที่ 15 ไร่ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี ก่อนที่จะย้ายการก่อสร้างมาที่ ย่านจัตุจักร และเกิดถล่มพังถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
ปฐมบทตึกสตง.แห่งใหม่ถล่ม (1) ปักหมุดพื้นที่ 15 ไร่ กรมธนารักษ์ย่านปทุมฯ ก่อนย้ายไปจตุจักร
ส่วน คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เคยเป็นอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และเคยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีจัดให้มีการสัมมนา ที่ จ.น่าน วันที่ 31 ต.ค. 2546 ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการสัมมนากันจริง แต่จัดสัมมนาเพื่อให้ข้าราชการที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนานั้นได้ไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ที่จัดขึ้นในวันเดียวกันแล้วให้เบิกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงบเดียวกัน 294,440 บาท ทำให้ สตง.เสียหาย ช่วงปี 2562 ศาลฏีกา พิพากษาแก้โทษลดโทษเหลือจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน ให้รอลงโทษเป็นเวลา 2 ปี
หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวอิศรา