นายกฯอิ๊งค์ หลบสื่อเลี่ยงตอบปม ชายแดนไทย-กัมพูชา-ปรับ ครม. แค่ยิ้มทักทาย สุชาติ ขอโทษผู้ใหญ่ รทสช. ทำไม่สบายใจ  เอกนัฏยัน รทสช. ยังไม่แตกคุยสส.แล้ว แค่ไปกินข้าวกับ สุชาติ ไม่ได้ย้ายพรรค บอกไร้สัญญาณปรับ ครม.ยันเป็นอำนาจนายกฯขอทำงานเต็มที่ภูมิธรรม ย้ำไร้สัญญาณปรับครม.ยันรมต.ไม่หวั่นไหว ยังทำงานเต็มที่ เชื่อขรก.ไม่เกียร์ว่าง ประเสริฐแจงนายกฯ ยังไม่แจ้ง ปรับครม.หลังมีชื่อนั่ง มท.1 ชี้สถานการณ์ปกติ 
       
 ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ 148 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี ผู้สื่อข่าวพยายาม สอบถามนายกฯ ทั้งประเด็นปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่มีการรุกล้ำพื้นที่อ้างสิทธิ์ บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี รวมถึงเรื่องกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยหลังจากนายกฯ เดินทักทายผู้มาร่วมงาน ได้เดินเลี่ยงจุดที่สื่อมวลชนรอสัมภาษณ์ รวมถึงเลื่อนจุดขึ้นรถ และเดินไปออกอีกทางหนึ่ง ซึ่งสื่อมวลชนก็ได้วิ่งตามไปสอบถาม แต่นายกฯเพียงส่งยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามและขึ้นรถทันที
      
   ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฏภาพรับประทานอาหาร กับกลุ่ม ส.ส.พรรครทสช.ได้พูดคุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการรทสช. หรือยังว่า บางสิ่งบางอย่างเราต้องให้เกียรติ เราอาศัยบ้านเขาอยู่ เราต้องให้ความเคารพ ส่วนระเบียบและข้อบังคับพรรคก็ว่าไปตามนั้น ตนไม่ได้ซีเรียส 
       
  นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สื่อมวลชนถามว่าเจอกันกินข้าวกัน คุยอะไรกัน ตนก็ต้องพูดตรงๆ จะโกหกยังไง ต้องพูดความจริง หากตนบอกว่าไม่ได้คุยอะไร จะเชื่อหรือไม่ นี่คือความเป็นจริงที่ต้องพูด แค่ไปนั่งหารือกันเฉยๆ ยังไม่ถึงเวลา ไม่มีใครรู้ว่าเรากินข้าวกันมา 5-6 เดือนแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เราคุยกันมานาน
       
  เมื่อถามว่า นายเอกนัฏ ระบุว่าพร้อมรับฟังปัญหาภายในพรรค นายสุชาติ กล่าวว่า ตนอาศัยบ้านเขาอยู่ ต้องยอมรับว่าพรรคก็ดีสำหรับคนบางกลุ่ม แต่สำหรับตนบริบทอาจไม่เหมาะสม แต่อาจจะเป็นเฉพาะตน คนอื่นเราไม่ได้ไปยุ่ง ต้องขอโทษด้วยหากทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่เราก็ต้องมองทิศทางตัวเราว่าจะทำอย่างไร
       
  เมื่อถามว่า ปิดดีลกับพรรคโอกาสใหม่แล้วหรือยัง นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้มีดีลอะไร การเมืองก็ต้องคิดของเรา จะไปดีลอะไร จะไปคุยอะไรกับใครเราต้องมีมารยาทพอ ตนไม่เคยไปคุยกับพรรคอื่น เรามีสิทธิ์คุยและคิดกับเพื่อนเรา สื่อมวลชนก็ถามถึงภาพที่หลุดออกไป ตนไม่ได้เป็นคนทำให้ภาพหลุดออกไป ยืนยันว่าผู้แทนทุกคนมีเอกสิทธิ์
       
  นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องข้อบังคับพรรคที่มีการแก้ไข ตนน้อมรับทุกอย่าง ตนทำอะไรต้องยอมรับความเป็นจริง ขอถามว่า เมื่อมีการพูดถึงข้อบังคับแล้ว จะทำอะไรกับตนก็ทําเลย ตนไม่ได้ซีเรียส แต่ถ้าตนลาออ ประชาชนจะมองยังไง
      
   เมื่อถามถึงกรณีนายสุชาติมีชื่ออยู่ในโผปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่มี เป็นอำนาจของนายกฯ ตนไม่สามารถก้าวล่วง เราพูดคุยกันทีละสเต็ป 
     
    นายสุชาติ กล่าวว่า การเมืองต้องมองทิศทางประเทศชาติและบ้านเมือง เราจะอยู่พรรคไหนในอนาคต ต้องทำงานเพื่อประชาชน เราก็ต้องไปอยู่ตรงนั้น นโยบายพรรคนี้ก็ดี แต่อาจไม่ตรงกับเรา
     
    เมื่อถามว่า แบบนี้ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าใจไม่อยู่กับพรรคเดิมแล้ว นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ผมมาอาศัยเขาอยู่ 2 ปีกว่า แต่ต้องยอมรับว่าเราต้องมองไปข้างหน้า ไม่ได้จากกันด้วยการทะเลาะกัน แต่จากกันด้วยดี ไม่มีใครว่าอะไรกัน แต่อะไรที่ตนทำให้ผู้ใหญ่ในพรรค ไม่สบายใจ หรือผิดข้อบังคับ ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง เราเป็นลูกผู้ชาย แต่เราไม่ได้คิดว่าจะทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ตนไม่ได้มีเจตนา 
     
    เมื่อถามว่า ตอนนี้มีกี่คนที่มีแนวคิดการเมืองคล้ายกับนายสุชาติ นายสุชาติ กล่าวว่าอย่าไปพูดถึงเพื่อนคนอื่น เป็นแค่เรื่องตนคนเดียว ตนบอกให้ทุกคนสบายใจ มีอะไรตนรับผิดชอบคนเดียว
       
  ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึง ปัญหาความแตกแยกภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า เดี๋ยวต้องไปคุยกัน ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ตนกับ สส.ส่วนใหญ่ก็คุยกันตลอดเวลา คิดว่าปัญหาทุกอย่างคุยกันได้
        
 เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังอยู่กันแน่นหรือแตกแล้ว นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังอยู่กัน ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพ สส.ร่วมทานข้าวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นั้น ทาง สส.ได้มาบอกกับตนว่า แค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ หรืออย่างก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีคนย้ายออกจากพรรค หลายคนก็ออกมาปฏิเสธแล้ว
      
 "คิดว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้ทุกพรรคการเมืองถือว่าเป็นเรื่องปกติ อาจมีสิ่งที่คาใจ หรือมีปัญหากันบ้าง แต่เราก็เปิดรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งก่อนช่วงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ผมก็พูดคุยกับ สส. ตามปกติ" นายเอกนัฏ กล่าว
      
   เมื่อถามถึง กระแสที่กดดันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนคิดว่าตำแหน่งของนายพีระพันธุ์ อยู่สูง จึงต้องมีแรงกดดันเป็นธรรมดา เพราะการทำงานต้องประสบกับความท้าทาย ซึ่งเชื่อว่า นายพีระพันธ์ุเจอกับปัญหา แต่ท่านไม่ค่อยพูด เป็นคนที่สู้งานอย่างเดียว
      
  เมื่อถามถึง กรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการแก้ข้อบังคับเรื่องการพ้นสมาชิกภาพ จากการสร้างความขัดแย้งหมายถึงนายสุชาติ ใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า การแก้ข้อบังคับทำมาตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.แล้ว ตั้งแต่การประชุมใหญ่พรรค เป็นการปรับแก้ให้ตรงกับรัฐธรรมนูญ คงไม่ได้ไปแก้เพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น
      
   เมื่อถามว่าเป็นการแก้เพื่อขู่อีกฝ่ายหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ ยืนยันว่า ไม่ได้มีนัยอะไรทั้งสิ้น เพราะการประชุมใหญ่ทุกปีก็มีการแก้ข้อบังคับพรรค เพราะข้อบังคับบางตัวยังไม่มีความชัดเจน
      
   เมื่อถามว่า ได้มีการเคลียร์ใจกับนายสุชาติแล้วหรือยัง นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังเลยครับ แต่วันนี้ไม่แน่ เพราะอาจจะได้เจอ
      
   นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในส่วนคดีถุงยังชีพของนายพีระพันธุ์ที่อยู่ในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เชื่อว่า ท่านชี้แจงได้หมด และพร้อมไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. และหน่วยงานอื่น
      
   นายเอกนัฏ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับครม.นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ตราบใดที่อยู่ตรงนี้ก็ทำงานเต็มที่ ส่วนการปรับครม. ก็เข้าใจกันดีว่าเป็นอำนาจของนายกฯ ส่วนอนาคตเป็นอีกเรื่อง
      
   เมื่อถามว่า มีการส่งสัญญาณมาจากนายกรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ นายเอกนัฏ ยิ้ม พร้อมกล่าวว่า ไม่มี ทั้งตนและนายพีระพันธุ์ ก็ยังไม่ได้รับสัญญาณ และที่ผ่านมาตนก็ทำงานกับนายกฯได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอดไม่มีปัญหาอะไร
      
   ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีการส่งสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทยทราบแล้วหรือยังว่า ยังไม่มีเลย ตนเห็นแต่ในสื่อ ซึ่งทุกคนก็ไม่มีใครมีปัญหา ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่อยู่ที่ท่านนายกฯ ตัดสินใจอย่างไรก็อย่างนั้น
      
   เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่กระทรวงมหาดไทยต้องมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอให้นายกฯพิจารณา 
      
   เมื่อถามว่า กระแสข่าวการปรับ ครม. ที่เกิดขึ้นบั่นทอนจิตใจรัฐมนตรี และทำให้ข้าราชการเกียร์ว่างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละท่านเกิดความหวั่นไหวแต่อย่างใด เมื่อซักครู่เจอรัฐมนตรีก็ในงานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิ.ย. ซึ่งรัฐมนตรีก็ยังไม่มีใครรับรู้เรื่องการปรับครม. อะไรทั้งสิ้น ส่วนเรื่องเกียร์ว่าง ตนเชื่อในเกียรติของข้าราชการประจำที่มีหน้าที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ดูแลประเทศชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่มีอะไร
       
 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกระแสนายกรัฐมนตรี จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายประเสริฐจะได้ไปนั่งเป็นรมว.มหาดไทยว่า นายกฯ ยังไม่ได้แจ้งไม่มีอะไร 
      
   เมื่อถามว่า นายกฯได้มีการพูดเรื่องการปรับครม. และระยะเวลาที่จะปรับกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า  ยังไม่มี สถานการณ์ตอนนี้ยังปกติอยู่ 
    
     เมื่อถามต่อว่า หากมีการปรับ แล้วไปนั่งรมว.มหาดไทย พร้อมหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า จริงๆแล้ว นั่งตรงไหนก็ทำงานได้ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอยากได้เก้าอี้ รมว.มหาดไทย อย่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพูดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล