ศุลกากร ยึดยาไอซ์ 33.73 กก. มูลค่า 100 ล้าน ซุกเครื่องกลึงโลหะ เตรียมส่งออสเตรเลีย
GH News June 05, 2025 10:15 AM

กรมศุลกากรตรวจยึดยาไอซ์ จำนวน 33.73 กก. มูลค่าปลายทาง 100 ล้านบาท เตรียมส่งออกออสเตรเลีย

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่กรมศุลกร นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร เป็นประธาน ร่วมด้วย นายเอกวุฒิ นาเอก ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายพีรพงศ์ รำพึงจิตต์ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 6 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พันตำรวจเอก ไพโรจน์ เขียวนรภัย ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรือโทศิรรินทร์ ชัยสินอัครยศ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเรือและสินค้า ท่าเรือกรุงเทพ การท่าเรือแห่งประเทศไทย แถลงตรวจยึด (ไอซ์) เตรียมส่งออกไปประเทศออสเตรเลีย ซุกซ่อนมาในเครื่องกลึงโลหะ จำนวน 33.73 กิโลกรัม มูลค่าปลายทางกว่า 100 ล้านบาท

นางนันท์ฐิตาเปิดเผยว่า ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าและส่งออกยาเสพติด เพื่อความปลอดภัยต่อสังคมและประชาชน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบส่งออกยาเสพติดและสารตั้งต้น ในทุกช่องทางการขนส่งสินค้า

นางนันท์ฐิตากล่าวต่อว่า กรมศุลกากรได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องมือในการควบคุมทางศุลกากร อาทิ การบริหารความเสี่ยง การเปิดตรวจทางกายภาพ และการตรวจสอบสินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ จนเมื่อวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.00 น. กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายเอกวุฒิ นาเอก ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก สำแดงสินค้าเป็นเครื่องกลึงโลหะ เพื่อส่งออกทางเรือไปยังประเทศออสเตรเลีย

ผลการตรวจสอบ พบสินค้าเป็นเครื่องกลึงโลหะ จำนวน 1 เครื่อง บรรจุในลังไม้ 1 ลัง และจากการตรวจสอบภาพเอกซเรย์พบว่ามีความผิดปกติอยู่ภายในเครื่องกลึงโลหะ จากนั้นจึงทำการตรวจสอบทางกายภาพ พบวัตถุลักษณะเกล็ดขาว บรรจุอยู่ในห่อฟอยล์ จำนวน 26 ก้อน และบรรจุในถุงพลาสติกใส จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 33.73 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวอย่างเกล็ดขาวต้องสงสัยมาทดสอบสารเสพติดโดยใช้ชุดทดสอบสารเสพติดเบื้องต้น มาร์ควิส (MARQUIS REAGENT) แสดงผลเป็นสีน้ำตาลและใช้เครื่อง Handheld Raman Spectrometer ตรวจสอบองค์ประกอบพบเป็น Methamphetamine จึงสรุปผลการตรวจสอบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 33.73 กิโลกรัม มูลค่าปลายทางกว่า 100 ล้านบาท

ซึ่งในกรณีนี้เป็นความผิดฐานพยายามส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และเป็นความผิดตามมาตรา 244 มาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.