"บิ๊กเต่า" สั่งเร่งตรวจสอบขยายผลคดี “วัดไร่ขิง” จ่อตรวจสอบกว่า 10 วัด หลังพบเส้นเงินพัวพันถึง เตรียมเข้าเรือนจำสอบเพิ่ม “ทิดแย้ม” คาดเงินมืดกระจ่างภายในสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 5 มิ.ย.68 ที่กองบังคับการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) ประชุมความคืบหน้าคดีวัดไร่ขิง ภายหลังจับกุมตัวนางพชรพร หรือ หมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สามี โดยได้เข้าร่วมประชุมเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า วันนี้ประชุมการขยายผลเรื่องเส้นเงิน ที่เรียกว่า “เงินมืด” ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีที่ทางตำรวจได้ตรวจสอบไปแล้ว โดยเงินดังกล่าวมีหลายส่วน ส่วนแรกคือเงินที่ได้จากการตั้งร้านขายของในงานประจำปี ,เงินทำบุญวัด 100 ปี ,เงินกฐิน และเงินร้านค้าสวัสดิการ โดยยอดเงินรวมกันทั้งหมดประมาณกว่า 250 ล้านบาท อีกส่วนคือเงินยืมจากวัดอื่นๆอีก 300 ล้านบาท ส่วนเงินที่มีการโอนออกจากบัญชีวัด และเงินที่ได้จากการทำบุญทั้งหลาย เวลาเอาไปตรวจนับเชื่อว่า การตรวจนับไม่ตรงตามที่ได้ โดยเป็นเงินจำนวนมากหลายปีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเงินที่ยังตรวจสอบไม่ได้ คือเงินจากเจ้าอาวาสองค์เก่า มีจำนวนหลายร้อยล้านบาทเช่นกัน
ส่วนกรณีรถทั้งหมด 20 กว่าคัน ทางด้านนางพชรพร ให้การรับสารภาพ และคืนให้วัด 4-5 คัน ที่เหลือ พบว่ายังอยู่ในบัญชีรายชื่อที่ไม่มีความชัดเจนว่าใครเป็นผู้ครอบครอง อาจจะเป็นญาติ หรือสามี และนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง
อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังได้ไปดูเรื่องเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับการโอนเข้าไปมากกว่า 10 วัด ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดอื่นๆ แต่ขอสงวนรายชื่อ วัดเหล่านี้ไว้ก่อนเนื่องจากอยู่ในการสอบสวน ซึ่งตรงนี้จะทำการตรวจสอบวัดที่เกี่ยวข้อง โดยจะเข้าไปสอบปากคำนายแย้ม เพิ่มเติมในเรือนจำ ซึ่งจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องเส้นเงินมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ ได้มีการประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แล้ว พบว่าเป็นตู้ของโรงพยาบาลที่ยังมีเงินอยู่ ส่วนก้อนเงินที่ทิดแย้มไปยืมจากมูลนิธิฯ กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นคดีหรือไม่ ต้องดูเหตุผลว่าเพียงพอสำหรับการยืมหรือไม่
โดยการขยายผลพบความผิดหลายกรรมเพิ่มขึ้นจากการขอหมายจับครั้งก่อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามทรัพย์อาทิที่ดิน ที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม โดยจะขยายไปถึงเรื่องฟอกเงินอีกด้วย