ลั่น!ไม่มีใครรู้ดีลสลับเก้าอี้
GH News June 06, 2025 09:07 AM

เปิดข้อต่อรอง “ภูมิใจไทย” ขอคุม “พลังงาน” แลกเก้าอี้ “มท.1” ย้ำจุดยืนเซตซีโร่ เจรจาโควตาใหม่ยกคณะ “ภูมิธรรม”ยันไม่มีใครรู้เรื่อง “สลับเก้าอี้” เป็นอำนาจ “นายกฯ” ระบุต้องให้เวลาคิด เผยคุย “เพิ่มพูน” แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร “74 อดีต สว.”ลงชื่อจี้กรรมการแพทยสภา ตบเท้าประชุม 12 มิ.ย.นี้ ทวงศักดิ์ศรีวงการแพทย์ ขณะที่ “แพทยสภา” ยัน ไม่หนักใจ ไอ้โม่งกดดัน ดิสเครดิต หลังออกมติลงโทษ 3 หมอปมชั้น 14 แจงข่าวลือ “สมศักดิ์” ร่วมประชุม 12 มิ.ย.นี้ บอก รอทีมกฎหมายดูก่อน เหตุมีส่วนได้ส่วนเสียในฐานะผู้ “วีโต้”  

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)  โยกไปนั่ง รมว.ศึกษาธิการ โดยพรรคเพื่อไทย (พท.) จะยอมเสียเพิ่มอีก 1 กระทรวงให้พรรค ภท. มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่า ตนยืนยันมาตลอดว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ทุกคนไม่ได้หวั่นไหว หรือบอกว่าตัวเองจะไปอยู่ตรงไหน เพราะเราต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำจนกว่าจะมีคำสั่งหรือมีการปรับที่เป็นจริงเกิดขึ้น ตรงนั้นก็ต้องมีการแจ้งหรือพูดคุยกัน ยืนยันว่ารัฐมนตรีของเราทั้งหมดโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยไม่มีอะไรหวั่นไหว ข่าวนี้ถ้าเราไปตามอย่างที่คาดการณ์เราก็จะเหนื่อย อย่างตนตอนแรกมีข่าวว่าจะไปอยู่กระทรวงมหาดไทยให้ได้เลย จนหลายคนคิดว่าตนจะไม่ได้ทำงานที่กระทรวงกลาโหมแล้ว จนตนต้องบอกว่าไม่ใช่ ยังทำงานกันดีอยู่ เพราะตอนนี้ตนมีภารกิจที่ติดตลาด ก็ไปบอกว่านายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะไปอยู่กระทรวงมหาดไทย ไม่มีใครรู้เลยเรื่องจะสลับเก้าอี้หรืออะไร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ได้นั่งรับประทานอาหารกับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เราก็คุยกันดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรเลย ตนยืนยันรอนายกฯดำริ ท่านคิดอยู่ในใจ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ อันนี้ฟังจากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ฉะนั้น อยู่ที่นายกฯคนเดียว ถ้านายกฯ บอกปรับ ครม. ภูมิธรรมออกไปอยู่พรรค ตนก็ต้องออก หรือภูมิธรรมย้ายไปกระทรวงไหนก็ต้องไป อยู่ที่เดิมก็ต้องทำหน้าที่ไป อยู่ที่ท่านนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้มีการหารือกับนายภูมิธรรมหรือไม่ เพราะก็เป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งถ้าจะทำจริงคงมีการหารือ แต่ตอนนี้ตนเชื่อว่า ยังอยู่ในภาวะที่ท่านกำลังคิดเรื่องราวข้อมูลต่างๆ อยู่ ยืนยันไม่มีหารือจริงๆ เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการนั่งรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลกันก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันได้ว่า ยังไม่มี

เมื่อถามอีกว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จะเป็นการเซ็ตซีโร่ตำแหน่งในรัฐบาลใหม่ทั้งหมด ไม่เหมือนข้อตกลงเดิมใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นความคาดหวัง หรือเป็นการคาดเดาของประชาชน หรือของสื่อมวลชน เราไม่ได้คิดอะไรไปตามคำถามที่เพิ่มมากขึ้น มันไม่มีอะไร มันศูนย์อยู่แล้ว ยังไม่มีอะไรเพิ่ม แต่ถ้าเริ่มมีการคิด การคุย แล้วมาถามว่า จะไปตรงนั้นตรงนี้ อันนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ยืนยันได้ว่า ไม่มี

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีกระแสข่าวว่าตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะสลับมาเป็นของพรรคเพื่อไทย โดยให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขยับมาเป็นรมว.มหาดไทย แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล

แหล่งข่าวระบุว่า ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจุดยืนของพรรคเพื่อไทยคือการยึดคืนเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย ขณะที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันจุดยืนให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะในรูปแบบ “เซตซีโร่” คือ เจรจาโควตากับพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ทั้งหมด โดยหากพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทย ก็จำเป็นต้องนำกระทรวงที่อยู่ในระดับเดียวกันมาแลกเปลี่ยน เพื่อทดแทนโควตาในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เช่น กระทรวงพลังงาน โดยรายงานข่าวยืนยันด้วยว่า ไม่มีการแลกโควตากระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างที่มีข่าวก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ได้เคลื่อนไหวร่วมกันลงชื่อ ถึงกรรมการแพทยสภา ที่จะประชุมวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เพื่อยืนยันว่าจะลงมติยืนยันมติเดิมเมื่อ 8 พ.ค.ที่ให้ลงโทษแพทย์สามคนที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษานายทักษิณ ชินวัตรหรือไม่ โดยหลังนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ได้วีโตมติแพทยสภา เมื่อ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว มีอดีต สว.ร่วมกันลงชื่อ 74 คน มีรายละเอียดดังนี้ ด้วยคณะกรรมการแพทยสภามีกำหนดการประชุมในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เพื่อพิจารณายืนยันมติเดิม (ตามการประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) ในคดีนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราวแพทย์ 2 ราย และตักเตือนแพทย์ 1 ราย ตาม มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 โดยมติดังกล่าว สภานายกพิเศษ (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) รมว.สาธารณสุขใช้อำนาจยับยั้งไว้  

การลงมติในครั้งนี้จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า สองในสามของกรรมการ(หรือ 47 เสียง จากกรรมการทั้งหมด 70 คน) ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สูงและท้าทาย ทั้งยังเป็นประเด็นที่สังคมจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผลการตัดสินใจจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของแพทยสภาและ ศักดิ์ศรีของวงการแพทย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต  จึงเรียนมาเพื่อวิงวอนให้ท่านกรรมการทุกท่าน 1. เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยหลีกเลี่ยงการลา ประชุม 2. ยึดมั่นในเหตุผลเดิม ที่เคยพิจารณามาแล้ว ไม่คล้อยตามแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก  3. ตัดสินใจบนพื้นฐานของจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อรักษาเกียรติภูมิของแพทยสภาและวิชาชีพแพทย์  

ทั้งนี้ ผลการลงมติจะสะท้อนถึง ความเข้มแข็งของระบบวิชาชีพ ที่ต้องเป็นอิสระและอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมืองหรืออิทธิพลใดๆ  จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวถึงกรณีกระแสกดดัน เอาคืน ดิสเครดิตแพทยสภาที่มีมติลงโทษแพทย์จำนวน 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากรพ.ราชทัณฑ์ไปรักษาตัวที่รพ.ตำรวจ โดยมีการตักเตือนแพทย์ 1 คน พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 3 เดือน 1 คน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 6 เดือน 1 คน ว่า ตนไม่ทราบเรื่อง แต่ส่วนตัวแล้ว ยังทำงานปกติ ไม่มีใครมากดดัน แต่คนอื่นตนไม่ทราบ 

เมื่อถามว่า การประชุมกรรมการแพทยสภาเพื่อลงมติกรณีที่รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา มีการวีโต้มติแพทยสภาให้ลงโทษแพทย์ 3 คน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ กดดันหรือไม่ แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวว่า ตนไม่กดดัน ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว หากจะบอกว่า กดดัน ก็ต้องกดดันทั้งปี เพราะงานเยอะมาก ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว  

เมื่อถามว่า ตามหลักการการประชุมวันที่ 12 มิ.ย. สามารถเลื่อนการลงมติกรณีสภานายกพิเศษฯ โต้คำสั่งได้หรือไม่นั้น แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวว่า ถึงอย่างไรก็ต้องประชุม และไม่อาจเลื่อนการลงมติได้ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน เพราะถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครองที่ต้องออกมาตามขั้นตอน 

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีหรือไม่ว่าในที่ประชุมกรรมการแพทยสภาไม่ได้พิจารณาลงมติในการประชุมนัดแรก แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะพิจารณาหมด  แต่เคยมีในบางเรื่องที่ไม่ได้มีการลงมติ  เพราะต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม 

ในการลงมติจะมีการเชิญผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย อนุกรรมการที่เคยพิจารณาเรื่องนี้จำเป็นต้องออกจากห้องประชุมหรือไม่ แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของแพทยสภาอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมายว่า ใครที่สามารถอยู่ในห้องประชุมเพื่อพิจารณาและลงมติได้บ้าง 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่รมว.สาธารณสุข จะเข้ามาร่วมประชุมนั้นสามารถทำได้หรือไม่ ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะคือคนวีโต้หรือไม่ แหล่งข่าวจากแพทยสภา กล่าวว่า ก็คงต้องรอฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่า ใครสามารถร่วมประชุมได้.


 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.