Description บริษัทรับเหมาก่อสร้างเสี่ยงถูกฟ้อง “คดีทางการแพทย์” จากลูกจ้าง หากละเลยเรื่องความปลอดภัยเรียนรู้วิธีป้องกันปัญหาทางกฎหมาย พร้อมคำแนะนำจากสำนักงานกฎหมายสรศักย์
Body contents
ในยุคที่ธุรกิจก่อสร้างเติบโตอย่างรวดเร็ว ความท้าทายของบริษัทรับเหมาก่อสร้างไม่ได้มีแค่เรื่องต้นทุน วัสดุ หรือกำหนดส่งมอบงานเท่านั้น แต่ “คดีทางการแพทย์จากลูกจ้าง” กลายเป็นประเด็นสำคัญที่หลายบริษัทมองข้ามไป
บาดเจ็บจากไซต์งาน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเวลางาน หรือโรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน ล้วนสามารถนำไปสู่การเรียกร้องค่าชดเชยหรือดำเนินคดีตามกฎหมายแรงงานและกฎหมายแพ่งได้ หากบริษัทไม่มีการป้องกันและเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: คดีทางการแพทย์จากอุบัติเหตุในงานก่อสร้าง การฟ้องร้องและการชดเชย
บทความนี้จะพาองค์กรหรือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง เข้าใจวิธีลดความเสี่ยงจาก “คดีทางการแพทย์” พร้อมแนะนำบริการทางกฎหมายที่คุณไว้วางใจได้จาก สำนักงานกฎหมายสรศักย์ ซึ่งมีประสบการณ์ดูแลลูกค้าองค์กรโดยตรง
เข้าใจขอบเขตของ “คดีทางการแพทย์” ในบริบทแรงงาน
คำว่า “คดีทางการแพทย์” ในบริบทของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หมายถึงกรณีที่ ลูกจ้างได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือเสียชีวิตจากการทำงาน แล้วมีการฟ้องร้องเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย หรือค่าเสียหายต่างๆ โดยอาจอยู่ในรูปแบบ
แนวทางที่นายจ้างควรเตรียมเพื่อป้องกันปัญหาทางการแพทย์
การป้องกันดีกว่าการแก้ไข โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง “คดีทางการแพทย์จากลูกจ้าง” ที่สามารถกลายเป็นภาระทางกฎหมายและการเงินมหาศาลสำหรับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง นายจ้างควรเตรียมความพร้อมในประเด็นต่อไปนี้อย่างรอบด้าน
การมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่เข้าใจธุรกิจก่อสร้างและกฎหมายแรงงานไทย จะช่วยให้บริษัทไม่ตกหล่นรายละเอียดสำคัญ และมีผู้ดูแลเมื่อเกิดกรณีพิพาทขึ้นจริง
สำนักงานกฎหมายสรศักย์ ให้บริการแบบ “One-Stop Legal Service” สำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เราช่วยวางระบบแรงงาน ตรวจสอบสัญญา ดูแลข้อพิพาทเกี่ยวกับคดีแรงงานและคดีทางการแพทย์ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยในที่ทำงานตามมาตรฐานกฎหมายไทย
ผลประโยชน์ที่นายจ้างจะได้รับจากการป้องกันล่วงหน้า
การป้องกันปัญหาคดีทางการแพทย์ไม่ใช่แค่การลดความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและคุณภาพให้กับองค์กรในหลายด้านอย่างมีนัยสำคัญ
3.เพิ่มประสิทธิภาพและแรงจูงใจของแรงงาน ลูกจ้างที่รู้ว่าตนเองได้รับการดูแลอย่างดี มักทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอัตราการลาออก และลดปัญหาการนัดหยุดงานหรือข้อพิพาทด้านแรงงาน
4.ป้องกันปัญหาซ้อน เช่น การตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ บริษัทที่ไม่มีระบบความปลอดภัยและการดูแลพนักงานที่ดี อาจถูกตรวจสอบซ้ำซากจากกระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม หรือกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน
ทำไมบริษัทควรมีที่ปรึกษากฎหมาย
การมีที่ปรึกษากฎหมายประจำองค์กร ไม่ได้มีไว้แค่ตอนมีปัญหา แต่คือการลงทุนเพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีแรงงานจำนวนมาก และมีโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันสูง
สำนักงานกฎหมายสรศักย์ เป็นพันธมิตรขององค์กรธุรกิจที่ต้องการดำเนินการอย่างถูกต้อง มีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำทั้งไทยและต่างชาติ พร้อมช่วยวางแผนเชิงป้องกัน ตรวจสอบเอกสาร และให้คำปรึกษากรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับแรงงานและคดีทางการแพทย์
ในโลกธุรกิจก่อสร้าง ความเสี่ยงไม่เพียงอยู่ที่โครงสร้างอาคาร แต่ยังอยู่ที่ “คน” ในองค์กรด้วย “คดีทางการแพทย์จากลูกจ้าง” สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากบริษัทไม่ใส่ใจด้านความปลอดภัยและกฎหมายแรงงานอย่างจริงจัง
การเตรียมความพร้อมทั้งด้านเอกสาร ระบบภายใน และการมีที่ปรึกษากฎหมายที่เชี่ยวชาญ คือสิ่งที่ทุกบริษัทควรมี ไม่ใช่แค่เพื่อป้องกันปัญหา แต่เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ และความยั่งยืนในธุรกิจ
หากบริษัทของคุณกำลังมองหาผู้ช่วยด้านกฎหมายที่เข้าใจทั้งมุมธุรกิจและกฎหมายแรงงานในไทย สำนักงานกฎหมายสรศักย์ พร้อมอยู่เคียงข้างองค์กรของคุณ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างมั่นคงและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาทางกฎหมายวันนี้
บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์ และที่ปรึกษาสากล จำกัด 49/78 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
เบอร์โทร: 081-692-2428, 094-879-5865
Facebook: Sorasak Lawfirm
Email: Admin@sorasaklaw.com, sorasak@sorasaklaw.com
Line: 081-692-2428, @928xlctv
Website: บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล จำกัด