อิงฟ้า แจงปมโพสต์โดนเปรียบเทียบ ห่วง บอสณวัฒน์ รับมือดราม่า แอบเตือนให้งดโซเชียลบ้าง

เป็นช่วงที่แวดวงนางงามกำลังร้อนระอุเลยทีเดียว แต่ที่หนีไม่พ้นสนามอารมณ์แฟนนางงามเห็นจะเป็น อิงฟ้า วราหะ ที่มักจะเจอกระแสเปรียบเทียบในโลกโซเชียลมาโดยตลอด ล่าสุดเจ้าตัวได้มาในงานอีเวนต์ “MACAO WONDER” ของการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย ที่ Fashion Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

“มาเก๊าเป็นประเทศที่หนูชอบมากๆ หนูเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวก่อนหน้านี้แล้ว บ้านเมืองเขาอลังการ สวย ได้ฮีลใจ ไปสถานที่สำคัญต่างๆ ได้ไปมูฯ ให้ตัวเองปังๆ ขึ้น อาหารก็อร่อยทาร์ตไข่บ้านเขาต้องให้ ยังคิดอยู่เลยว่าถ้ามีวันหยุดสักวันก็จะบินไปซื้อ ไปกลับได้สบายๆ เหมือนบินในประเทศเลย ได้ไปไหว้อาม่าวันนั้นฝนตกบอกขอหนูถ่ายหน่อยนะก็หยุดเลย ขนลุก (ที่ขอได้หรือยัง?) ก็ได้ค่ะ ยังไม่ได้พักเลย ขอว่าให้หนูได้กลับมาในฐานะมหาเศรษฐีแล้วกัน (ยิ้ม) อาจจะจากโชคลาภหรืออะไรก็ตาม แต่ดูแล้วอาม่าน่าจะชอบให้ทำงาน (หัวเราะ)”

ก่อนจะเปิดใจถึงปมโพสต์โต้ดราม่าไว้ว่า “อย่าไปเปรียบเทียบเส้นทางการเดินสู่ความสำเร็จของผู้อื่น เพราะความสำเร็จของคนเราหน้าตาไม่เหมือนกัน จงทำตัวเองให้เก่งในสิ่งที่ถนัดโดยใช้ขาของตัวเองที่ยืนด้วยลำแข้งและความสามารถทั้งหมดที่เรามี ไม่ใช่แค่ปากอย่างเดียว”

ถามถึงแคปชั่นที่เราโพสต์?

“ภาพรวมแล้วกัน สิ่งที่เราโพสต์ไปมันน่าจะไปตรงกับชีวิตใครหลายคนเพราะยอดแชร์เยอะมาก ก็เป็นการโพสต์ภาพรวมไปค่ะ สำหรับความรู้สึกของเราที่เราโดนมาตลอดกับเรื่องเดิมๆ เปรียบเทียบเราก็อธิบายในพื้นที่ของเราว่าความสำเร็จของแต่ละคนมันมีหน้าตาไม่เหมือนกัน”

น้อยใจไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น?

“มันก็มีบ้างที่บางทีเราทำงานเยอะมากๆ แล้วพอเข้าไปเจออะไรที่มันท็อกซิกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จะรู้สึกเหนื่อยใจบ้างในบางที แต่ก็ไม่ถึงกับท้อแท้อะไรขนาดนั้นก็คงเริ่มชินแล้วแหละ”

เราก็พิสูจน์มาตลอดแต่ยังเจอแบบนี้?

“หนูว่าถ้าเราพิสูจน์กับคนที่อคติก็จะเหนื่อย นอกจากเราปล่อยแล้วทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ เพราะยังมีอีกหลายงานที่ยังต้องให้เราพัฒนาตัวเองต่อ”

โดนเปรียบเทียบซ้ำๆๆ โกรธบ้างไหม?

“ก็มีนิดนึงเพราะบางคนก็ใช้คำพูดคำจาที่ไม่น่ารัก แต่ว่ามันเป็นแค่บางกลุ่ม ถ้าให้พูดตรงๆ ก็บางกลุ่มที่เป็ยแฟนคลับนางงามมากกว่า คนข้างนอกไม่ได้มีอะไร ซึ่งเราประกวดจบมา 3 ปีแล้ว ก็ยังเจอกับเรื่องเดิมๆ ไม่จบไม่สิ้น”

กลุ่มเดิมๆ ตามแซะเรื่องเดิม?

“ก็รู้สึกว่าเราพิสูจน์ไปเหนื่อยเปล่ากับคนที่เขาอคติกับเรา”

อยากใช้กฎหมายบ้างไหม?

“กองใช้ไปแล้วค่ะ ก็มอบหน้าที่นี้ให้กับทางกองเขาจัดการ จริงๆ หนูเคยใช้แล้ว สุดท้ายแล้วมาดูอายุ 13 แต่อินกับการเป็นแม่มากๆ (ได้ถามเขามั้ยว่าทำไมมีความคิดแบบนี้?) ไม่ได้คุยเลยค่ะมีแค่ทางตำรวจโทรมาว่าเจอแล้วนะจะดำเนินการต่อไหมอายุ 13 อยู่ที่นี่ แต่เราก็ไม่เคยเจอหน้าก็นานแล้วค่ะสักประมาณปีนึง คือคงเป็นวัยของเขาแล้วก็อยู่ที่การเติบโตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน คือพอรู้ว่าเป็นเด็กก็ไม่อยากจะอะไรมาก”

แล้วถ้าเป็นผู้ใหญ่ล่ะ?.

“ก็ต้องเป็นเงินสดแหละ ก็ตามมูลค่าความเสียหายของเราไป ถ้าถึงขั้นที่เราต้องมีการฟ้องเสียหายอะไรขึ้นมามันก็มีรายจ่ายเนอะ”

พอเราให้อภัยไม่กลัวว่าเขาจะทำซ้ำ?

“หนูว่ามันอยู่ที่บุคคลนั้นจะคิดได้จริงๆ เพราะต่อให้เราจะฟ้องมันก็จะมาใหม่มาเรื่อยๆ นอกจากว่าบทเรียนมันจะเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ซึ่งตอนนี้ด้วยความที่เราทำงานอยู่ด้วยฟ้าก็เลยไม่ได้ลงพื้นที่ไปดูรายละเอียดก็ให้เป็นหน้าที่ของกองไป ซึ่งเมื่อวานก็เห็นว่าบอสมีประชุมกับทีมกฎหมายที่จะล่าว่าใครบ้าง”

บอสก็รับรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้น?

“รู้ เขาก็รู้ก็พยายามบอกหนูว่าท่าอันไหนที่จัดการได้เดี๋ยวจัดการให้เพราะเขารู้ว่าเราเหนื่อยงานเยอะ แต่หนูว่าเขาน่าจะโดนหนักกว่า (หัวเราะ) ก็น่าจะไปก่อนหนูแล้ว น่าจะมีทีมแต่ว่าจริงๆ ทางทนายของกองมีเยอะมากมีหลายแผนกที่ดูกันไปค่ะ”

บั่นทอนจิตใจเราไหม?

“ก็บั่นทอนแหละค่ะ ก็เก็บไว้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราพัฒนาตัวเองต่อไปเพราะคำดูถูกพวกนี้แหละมันยิ่งทำให้เรามีไฟในการพัฒนาตัวเองต่อไป ก็พยายามที่จะพูดให้น้อยแต่ต่อยให้หนัก ให้เห็น”

แต่ก็เห็นฟ้าคอมเมนต์บ่อยนะ?

“หนูอยู่ในกลุ่มนางงาม (ยิ้ม) ตอนที่อยู่คือเป็นหน้าที่ผู้จัดการกองไง แล้วก็จะคอยดูช่วงเวลาที่น้องๆ ประกวดว่าเขามีอะไรอัพเดทกันไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ก็จะคอยดูแต่หลังจากที่ประกวดเสร็จก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่”

ณ วันนี้ดราม่ากลับมาเรื่องเดิม นางงามขายของ?

“จริงๆ หนูว่าแฟนนางงามสามารถที่จะเสนอหรือบอกได้ว่าถ้าแคมเปญมันเยอะไป แต่แค่เราใช้ถ้อยคำที่มันสุภาพ ดีๆ เป็นการแนะนำที่ดีเพราะจริงๆมันก็ขาดไม่ได้หรอกเรื่องของการขายของการต่อยอดต่างๆ ยิ่งเราเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ต้องมีเรื่องผลกำไรต่างๆ รายปี รายเดือน ต้องทำยอดขึ้น แต่หนึ่งอย่างที่เราคิดก็คือตัวนางงามเองก็มีรายได้เป็นการต่อยอดอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ใช่แค่องค์กรแต่คุณภาพชีวิตของนางงามด้วยที่ได้ค่าคอมมิชชั่นไปหรือเป็นการพัฒนาตัวเองไปอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ทำให้ลูกค้าสามารถมาซื้อพรีเซนเตอร์มาซื้องานได้ ก็มองว่ายังไงก็ยังคงต้องมีแต่ถ้ามันมีเยอะไปก็ลองเสนอกันได้ แต่เป็นการเสนอแบบสร้างสรรค์”

แต่มันก็มีประเด็นนางงามบางคนที่ผู้ติดตามน้อยยังไม่มีแสง ก็ต้องจ่ายเงินซื้อของเองเพื่อทำยอด?

“จริงหรอ เรื่องเทคนิคการขายของมันเป็นสิ่งที่ตัวนางงามบุคคลนั้นอาจจะต้องทำการบ้านเองโดยเฉพาะ เรื่องทีม รายบุคคลกันไป แต่บทจะมามันก็มาเลย เพราะฉะนั้นมันก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในทุกสถานการณ์จะดีกว่า”

คิดว่าบริบทนางงามมันเปลี่ยนไปไหม หลายคนก็ยังมองว่านางงามต้องช่วยเด็กช่วยสังคม แต่วันนี้ต้องมาขายของ?

“จริงๆ หนูก็ช่วยนะเพียงแต่เราไม่ได้โพสต์ในเรื่องของการช่วยเหลือหรือโครงการต่างๆ ตัวบุคคลนางงามคนนั้นๆ จะต้องมีของเขาอยู่แล้วแหละ แต่บางคนอาจจะไม่ได้โพสต์ อย่างฟ้าเองก็มีสัตว์มีคนมีเรื่อยๆ แค่เราไม่ได้ประชาสัมพันธ์แต่ว่าถ้ามองว่าบริบทนางงามมันเปลี่ยนมันอาจจะเปลี่ยนในเรื่องของการที่จุดขายมากกว่า ของเวทีบริบทมันไม่เหมือนกัน”

ในฐานะผู้จัดการกองเพราะเห็นการเปรียบเทียบแบบนี้รู้สึกยังไงบ้างกระทบองค์กรกระทบจิตใจน้องๆ ไหม?

“ก็เป็นห่วงบอสค่ะว่าเขารับมือไหวไหม เพราะจริงๆ สุดท้ายไม่มีใครชอบต่อให้ปากบอกว่ารับไหวแต่ก็คงไม่มีใครชอบการโดนเปรียบเทียบอยู่แล้วค่ะ สำหรับตัวฟ้าเองเคยนอยด์แต่ตอนนี้ไม่ได้นอยด์อะไรแล้ว ก็ทำงานทำหน้าที่ไปอย่างที่บอกไปว่าทุกเวทีมีเสน่ห์ของมัน อยากให้คำนึงอย่างว่าเราเป็นผู้บริโภคเพราะฉะนั้นเราเลือกได้ที่จะเสพถ้าเราไม่ชอบแบบนี้เราก็เลือกที่จะไม่ต้องเสพไปเลย มันก็อยู่ที่ตัวผู้บริโภคด้วย เราเป็นผู้ผลิตที่เสิร์ฟเฉพาะคนที่เขาอยากให้เป็นแบบนั้น”

ให้กำลังใจบอสยังไงบ้างช่วงที่ผ่านมาหนักหน่วงมาก?

“เมื่อวานก็มีส่งข้อความไปค่ะว่าอยากให้บอสลดโซเชียล (หัวเราะ) เพราะเข้าไปยังไงก็เจอ พอเจอก็อดคิดอดนอยด์ไม่ได้เพราะเขาเป็นคนคิดแบบเก็บเล็กผสมน้อยแล้วมันหลายเรื่องหลายราว ตอนนี้คือหลายเรื่องเหลือเกินตัวหนูเองยังตามไม่ทันเลย”

ได้ถามบอสบ้างไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?

“หนูไม่ได้ถามถึงรายละเอียด แต่จะเป็นส่งข้อความไปให้กำลังใจมากกว่า เมื่อคืนก็ส่งไปว่าให้ลดโซเชียลบ้างนะ ไม่ใช่อะไรคือกลัวเขาเครียดเดี๋ยวนี้สังคมโซเชียลมันรุนแรงใช้คำพูดกันรุนแรงจริงๆ”

เวลาบอสเขาเครียดเราเป็นยังไง?

“สุขภาพก่อนเลย เขาจะปวดขา (ยิ้ม) สังเกตง่ายๆ เลย เวลาเครียดจะปวดขา ไม่สบาย ก็มีผลหมดแหละ”

ในฐานะผู้จัดการกองสิ่งที่เกิดขึ้น 2-3 วันนี้ จะมีผลกระทบไหม?

“ถ้าให้พูดตรงๆ อาจจะมีอยู่แล้วค่ะเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ดีที่เกิดขึ้น แต่หนึ่งอย่างที่จะทำให้เห็นก็คือเราสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้สุดท้ายก็ต้องมูฟออนต้องเติบโตกันต่อไปในองค์กร รับรู้ถึงปัญหา แก้ไข แล้วก็มูฟออน มันก็ต้องไปต่อค่ะอย่างน้อยต้องมีความเชื่อมั่นกันเองในองค์กรก่อนถึงจะก้าวต่อไป”

อย่างที่บอกบอสว่าให้โซเชียลบอสตอบกลับมาว่ายังไงบ้าง?

“(หัวเราะ) บอกว่าขอบคุณครับ ช่วงนี้มีเรื่องให้วุ่นๆ เยอะ อะไรอย่างนี้”

มินแกรนด์อินเตอร์ อาถรรพ์ไหม ตอนนี้เหลือไม่กี่คนแล้วนะ?

“รอติดตามชม ก็อย่างที่บอกว่าทุกปัญหาที่เกิดขึ้นเราต้องรับมือให้ได้และมูฟออนกันต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในองค์กรไม่มีใครทิ้งใคร ก็ช่วยเหลือกันเต็มที่ค่ะ แต่ว่าไม่มีอาถรรพ์ (หัวเราะ)”

เรื่อง บุญเลื่อง หาคนที่มารับบท จัน ได้หรือยัง?

“ไม่รู้เลยว่าทีมงานเขสฟิกไปหรือยังแต่ส่วนตัวยังไม่ได้เจอคนที่ได้เล่นจันกับแก้ว ถ้าเขาได้จริงๆก็น่าจะได้เจอกันก่อนว่าเคมีได้ไหมอะไรไหม ณ ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ฟิกนะคะ”

ในเรื่องของการที่จะต้องมีการโชว์เรือนร่าง มีความพร้อมแค่ไหน?

“อ๋อ พร้อมมาก (หัวเราะ) เราเคยใส่ชุดว่ายน้ำบนเวทีมาแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ทุกการถ่ายก็จะเซฟ ตากล้องก็อาจจะเป็นผู้หญิง เซฟให้เต็มที่แต่ภาพที่ออกมาด้านไหนใช้สแตนด์อินได้ก็ใช้ค่ะแต่ว่าตัวหนูเองไม่ได้มายด์กับเรื่องของความเซ็กซี่อยู่แล้ว เพราะเราก็ชอบความเซ็กซี่อยู่แล้ว”

เตรียมใจมาขนาดไหนกับความแรง?

“ก็จะทำให้ถึงที่สุด ดูบทเก่าๆ แล้วที่พี่นักแสดงที่เคยเล่นไว้ซึ่งพี่หญิง (รฐา โพธิ์งาม) ก็น่ารักเขาก็มีให้กำลังใจว่าน้องทำได้ เราก็ดูทำการบ้านเยอะ อยากทำให้แฟนๆ ภาพยนตร์ที่รอผลงานของเราจะได้ไม่ผิดหวัง ก็ทำให้เต็มที่อันไหนที่ลุยเองได้ก็ใส่สุดเหมือนกัน”

ลิมิตแค่ไหนกับความเป็นอีโรติก?

“ก็เท่าที่ทำได้ บางส่วนอาจจะต้องสแตนด์อิน โชว์หลังอาจจะพอได้”

พอเป็นรีเมคก็ต้องเจอกับการเปรียบเทียบ?

“คิดว่าต้องได้เจอการเปรียบเทียบแน่นอน แต่มันเป็นข้อดีนะอย่างน้อยก็คือต่อให้คนที่จะอคติจะรอติ แต่อย่างน้อยมันจะมีคนที่รอดู มันทำให้คนรอดูว่าจะออกมาเป็นยังไง ก็โอเคไม่เป็นไรค่ะ”