รับชมถ่ายทอดสด WWDC 2025 เจาะลึกวิสัยทัศน์ใหม่ Apple คืนนี้ เวลา 23.30 น. ลุ้นเปิดตัว iOS 26 พลิกโฉมดีไซน์-AI ที่ฉลาดล้ำกว่าเดิม พร้อมข่าวลือผลิตภัณฑ์ใหม่มีอะไรน่าสนใจบ้าง

สาวก Apple ห้ามพลาด คืนนี้เวลา 23.30 น. (เวลาไทย) งานใหญ่แห่งปี Worldwide Developers Conference หรือ WWDC 2025 เตรียมเปิดฉากแล้ว ปีนี้มาพร้อมแท็กไลน์ชวนคิด Sleek peek และโลโก้สไตล์กระจก ที่หลายฝ่ายคาดว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ก่อนจะไปดูของจริง เราขอรวบรวมข่าวลือที่ร้อนแรงที่สุดมาให้ส่องกันก่อนว่า Apple จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราบ้าง

สำหรับคีย์โน้ตหลักของงาน WWDC 2025 จะเริ่มขึ้นในเวลา 00.00 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ตามเวลาประเทศไทย ตามด้วย Platforms State of the Union สำหรับนักพัฒนาในเวลา 03.00 น. และเซสชันย่อยอีกหลากหลายหัวข้อต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน

ผู้ที่สนใจรับชมงาน WWDC 2025 สามารถรับชมถ่ายทอดสด WWDC25 ได้ผ่านสามช่องทางหลัก ดังนี้

• เว็บไซต์ apple.com
• แอป Apple TV
• ช่อง Apple บน YouTube

มาร์ค กูร์แมน นักข่าวชื่อดังแห่ง Bloomberg ยืนยันว่า Apple จะรื้อระบบการตั้งชื่อเวอร์ชันใหม่ จากนี้ไปทุกระบบปฏิบัติการ ทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS ไปจนถึง visionOS จะถูกนับเป็นเวอร์ชัน 26 (iOS 26) ทั้งหมด เป็นการประกาศศักดาถึงความเป็นหนึ่งเดียวของระบบนิเวศที่ไม่เคยมีมาก่อน

หัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือ Solarium Design ภาษาการออกแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจาก visionOS ของแว่น Vision Pro เตรียมพบกับอินเทอร์เฟซโปร่งแสงคล้ายกระจก เมนูโค้งมนลอยตัวเหมือนแคปซูลยา และเอฟเฟกต์แสงเงาที่สร้างมิติให้ทุกองค์ประกอบ นี่อาจเป็นการปรับโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่สุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ iOS 7 เลยทีเดียว ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้สูงที่งานปีนี้จะเน้นไปที่ซอฟต์แวร์ล้วนๆ ผู้ที่รอคอยฮาร์ดแวร์ใหม่อาจจะต้องลุ้นกันในงานอีเวนต์ช่วงปลายปีแทน

นอกเหนือจากความสวยงาม คือความฉลาดที่ฝังลึกขึ้น iOS 26 จะมาพร้อม AI Battery Management ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเราเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานที่สุด แอป Shortcuts จะเก่งกาจถึงขั้นที่เราสามารถสั่งสร้างคำสั่งอัตโนมัติที่ซับซ้อนด้วยภาษาพูดธรรมดาๆ ได้ และที่หลายคนจับตาคือ Siri ที่เคยโชว์วิสัยทัศน์ไว้ในปีก่อนว่าจะเข้าใจบริบทส่วนตัวและทำงานข้ามแอปได้อย่างลึกซึ้ง คาดว่าในเวอร์ชัน 26 นี้ เราจะได้ใช้ความสามารถนี้กันจริงๆเสียที (แต่อาจจะยังไม่รองรับภาษาไทยในช่วงแรก)

ฟีเจอร์ที่เคยอยู่บน iPad และ Mac อย่าง Stage Manager อาจถูกนำมาสู่ iPhone เป็นครั้งแรก (เมื่อต่อจอภาพภายนอก และรองรับเฉพาะรุ่นที่มีพอร์ต USB-C)

ฟีเจอร์ Wi-Fi Syncing ที่ทำให้คุณล็อกอิน Wi-Fi ในห้างหรือโรงแรมครั้งเดียวแล้วทุกอุปกรณ์ Apple ของคุณจะเชื่อมต่อตามโดยอัตโนมัติ, แอป Games ใหม่ที่จะมาแทน Game Center และแอป Preview สำหรับจัดการเอกสารเหมือนบน Mac ก็จะมาให้ใช้บนมือถือและแท็บเล็ตด้วย

นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมอย่าง AirPods ก็อาจมีฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ และ CarPlay ก็อาจมีฟีเจอร์จดจำเสียงเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีเสียงเด็กร้องไห้ในรถ

ตรวจสอบ iPhone รุ่นที่ได้ไปต่อ iOS 26 ที่นี่

macOS 26 (โค้ดเนม Tahoe

• จะได้รับดีไซน์ใหม่แบบเดียวกับ iOS 26 แต่การเปลี่ยนแปลงอาจไม่ชัดเจนเท่า
• ใช้ชื่อ Tahoe ซึ่งมาจากชื่อทะเลสาบในแคลิฟอร์เนีย ตามธีมการตั้งชื่อในช่วงหลัง
• เพิ่มฟีเจอร์ Vehicle Motion Cues ช่วยลดอาการเมารถ แบบเดียวกับบน iPhone
• Mac ชิป Intel หลายรุ่นอาจตกขบวน ไม่ได้ไปต่อในเวอร์ชันนี้

watchOS 26

• ได้ดีไซน์ใหม่บางส่วนแบบเดียวกับ iOS 26
• ได้ฟีเจอร์ AI Battery Management ช่วยจัดการแบตเตอรี่ แบบเดียวกับ iOS 26
• เพิ่มหน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่
• เพิ่มการรองรับชอร์ตคัตของแอป third party ในหน้า Control Center
• อาจมีฟีเจอร์ Apple Intelligence® แต่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เนื่องจากชิปบนนาฬิกาไม่สามารถประมวลผลเองได้

tvOS 26

• ได้ดีไซน์ใหม่แบบเดียวกับ iOS 26 เพื่อให้ทุกระบบดูเป็นหนึ่งเดียวกัน
• เพิ่มฟีเจอร์ Wi-Fi Syncing ซิงก์การล็อกอิน Wi-Fi สาธารณะสู่ทุกอุปกรณ์ แบบเดียวกับ iOS 26
• เพิ่มแอป Games เป็นแอปพื้นฐาน แบบเดียวกับ iOS 26
• เพิ่มสกรีนเซฟเวอร์แบบใหม่ตามธรรมเนียม
• อาจมีการนำ AI มาใช้เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน เพื่อปรับการตั้งค่าและแนะนำคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน แต่จะยังไม่มี Apple Intelligence®