‘เอกนัฏ’ ข้องใจ 21 ส.ส.รทสช. ร่อนเอกสารบีบปรับ ครม.จริงหรือมั่ว ไล่เช็กรายตัว ‘เฮ้ง’ เมินรับสาย ซัดคนเสียประโยชน์ ป่วนให้แตกแยก ขู่กระทำการขัดข้อบังคับเข้าข่ายผิดจริยธรรม ถึงพ้นสมาชิก โดยไม่ต้องขับออก
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 10 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาภายในพรรคว่า ในพรรคไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป ยังเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีเอกสารรายชื่อ 21 ส.ส.ส่งถึงนายกฯขอปรับ ครม.เป็นเพราะคุยกันในพรรคไม่รู้เรื่องหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ในข้อเท็จจริงทั้งตนและ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน รู้ดีว่าในภารกิจการทำงานที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมต้องเจออะไรบ้าง แต่เราต้องมุ่งมั่นภารกิจของเรา ส่วนข่าวเรื่องเอกสารที่ออกมาขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ และยังไม่ทราบว่ามีการยื่นเอกสารให้กับนายกฯจริงหรือไม่ เพราะมีข้อพิรุธหลังจากที่มีเอกสารออกมาแล้ว พบว่า ส.ส.หลายคนออกมาปฏิเสธ เช่น ส.ส.ชุมพร 3 คน ที่ออกมาพูดเพราะเอกสารออกไปแล้วทำให้คนเข้าใจผิด
นายเอกนัฏกล่าวว่า นอกจากนั้นยังเห็นสิ่งผิดปกติของลายเซ็น ที่บางคนออกมาปฏิเสธ รวมถึงในเนื้อความเขียนว่า รัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีความรู้ความสามารถ ขาดจริยธรรม และลงชื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีของพรรค ลำดับแรก รับรอง จึงไม่ทราบข้อเท็จจริงว่านายสุชาติได้เห็นและลงนามในเอกสารจริงหรือไม่ และถ้าลงลายมือชื่อก็เท่ากับรับรองและด่าตัวเองว่าไม่มีความรู้ ความสามารถ และต้องไปถามนายสุชาติว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นายเอกนัฏกล่าวด้วยว่า เท่าที่ดูหลายลายเซ็นไม่ตรงกับเอกสารที่ใช้ในราชการ ส.ส.คนอื่นที่สมัครสมาชิกพรรคลายเซ็นไม่ตรง บางคนเซ็นแค่ตัวอักษรนำ ซึ่งผิดวิสัยเอกสารสำคัญ เช่น เขียนตัวพีตัวเดียว ทั้งนี้ ยังไม่เห็นเอกสารตัวจริง ทั้งนี้ เรื่องในพรรคต้องไปจัดการในพรรค ไม่เกี่ยวกับเสถียรภาพ แต่ไม่เคยเห็นมีการไปเซ็นเอกสารที่ต่อว่าหัวหน้าพรรค เลขาฯ ที่ท้าทายกดดันนายกฯให้ปรับ ครม.ที่มีใจความในลักษณะนี้
เมื่อถามว่า หรือเรื่องนี้ได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์หรือยัง นายเอกนัฏกล่าวว่า ตอนนี้ให้โอกาสและขอสื่อสารผ่านสื่อว่าขอให้ทำให้โปร่งใส ใครที่มีรายชื่อปรากฏในเอกสารดังกล่าว ที่ไม่ได้มีเจตนากดดันนายกฯ ไม่ได้มีเจตนาด่ารัฐมนตรีของพรรค รทสช.ไม่มีความรู้ ความสามารถ จริยธรรม ก็ต้องออกมาชี้แจง
นายเอกนัฏกล่าวว่า ได้พูดคุยกับ ส.ส.ทีละคนตั้งแต่มีภาพปรากฏไปรวมตัวกันและมีข่าวจะย้ายพรรค ขณะที่ ส.ส.ก็ออกมาประกาศว่าไม่เป็นความจริง และวงที่คุยไม่ใช่เรื่องการย้ายพรรค เหตุการณ์ครั้งนี้ที่มีรายชื่อก็เช่นเดียวกัน ขอตั้งข้อสังเกตและชวนสื่อไปดูว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเอกสารดังกล่าว วันนี้เมื่อมีคนออกมาปฏิเสธไม่ต่ำกว่า 3-4 รายชื่อจาก 21 รายชื่อ อย่างนี้เรียกว่าเป็นเอกสารเถื่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าใครเป็นคนดำเนินการเอกสารดังกล่าว เลขาฯ รทสช.กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนรวบรวมรายชื่อ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการทำงานของทั้งตนและนายพีระพันธุ์ เราไปสร้างศัตรูไว้เยอะ ก่อนหน้านี้มีการไปลงขันกันด้วยเงินหลายร้อยล้านบาท หลังจากโรงงานที่ตนไปยกเลิกและปิดโรงงาน ซึ่งการลงทุนฆ่าหรือย้ายตนง่ายกว่าไปปรับคุณภาพโรงงาน เพราะภารกิจของเขา คือต้องการเอาตนเอาออกตำแหน่งให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่ทำเช่นนี้เพื่อขอให้ขับออกจากพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ถ้าใครเห็นว่าจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไม่เป็นไปตามอุดมการณ์ของเขาก็มีสิทธิลาออก แต่ตราบใดที่เป็นสมาชิกของพรรคต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของพรรค
เมื่อถามย้ำว่า คนที่ลาออกอาจจะขาดสมาชิกภาพ จึงต้องการให้พรรคขับออก นายเอกนัฏกล่าวว่า ต้องย้อนดูว่าการกระทำที่มีความผิดต่อพรรคร้ายแรง เช่น การผิดจริยธรรมร้ายแรงและการบิดเบือนเอกสาร การปลุกปั่นทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคเพื่อหวังผลใดๆ และสิ่งเหล่านี้อาจมีผลทำให้ขาดสมาชิก และขอให้กลับไปอ่านข้อบังคับพรรคดูดีๆ คนที่ปรากฎลงลายมือชื่อ ให้ไปถาม ส.ส.ว่าได้ลงลายมือชื่อจริงๆ หรือไม่ ส่วนที่มีชื่อของนายสุชาติก็ต้องให้ไปถามนายสุชาติ เพราะตนโทรไปไม่รับ แต่ ส.ส.คนอื่นที่ตนโทรไปรับและระบุว่าไม่มีอะไร เช่น นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ส.ส.ชลบุรี ยังระบุว่ารักพรรค รทสช.เหมือนเดิม ไม่น่าจะมีอะไร แต่หากทำอะไรไม่ถูกต้องก็อาจขาดสมาชิกภาพที่ขัดข้อบังคับพรรคโดยไม่ต้องใช้มติกรรมการบริหารพรรคขับออกได้
“ขอตั้งข้อสังเกตว่าแปลกหรือไม่ที่ใครจะเซ็นชื่อตัวเองมาปลดตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าตัวเองขาดคุณสมบัติ ถามว่าใครจะไปเซ็นรับรองข้อความนั้น” นายเอกนัฏกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯเปิดโอกาสให้แต่ละพรรคเสนอชื่อปรับ ครม.ในส่วนของพรรค จะปรับหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ปรับหรือไม่ปรับต้องรอสัญญาณจากนายกฯก่อน เพราะนายกฯจะเป็นคนลงนามภายใต้สัญญาที่มีให้กัน ส่วนจะปรับหรือไม่ปรับอย่างไรเป็นกลไกของแต่ละพรรค ขอให้เป็นไปตามการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค เพราะบ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง ทุกอย่างมีกติกาอยู่
เมื่อถามว่า ใน 21 รายชื่อมีใครที่ไม่ได้เซ็นชื่อจริง ได้ตรวจสอบหรือยัง นายเอกนัฏกล่าวว่า มีทยอยมาชี้แจง แต่ยังไม่ได้พูดคุยในเรื่องนี้ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าได้ยื่นเอกสารจริงหรือไม่ และที่ตนได้พบกับนายกฯเมื่อตอนเช้าก็พูดถึงเรื่องของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งนายกฯให้กำลังใจทุกเรื่องและที่ผ่านมาก็สนับสนุนการทำงานของตนตลอดมา
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีปรากฏการณ์ความแตกแยกภายในพรรค รทสช.มาเป็นระยะ นายเอกนัฏกล่าวว่า ได้เตรียมใจไว้แล้ว ตนเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ การทำงานของตนอาจจะไปเหยียบเท้าใครก็ได้ จึงต้องพยายามกระทำทุกวิธีการในการจัดการ คนแทงจากข้างนอกอาจเห็นว่าไม่เจ็บเท่าข้างใน จึงต้องมาป่วนข้างใน และเชื่อว่าคนที่ขัดผลประโยชน์สร้างเรื่องเพื่อให้เกิดความแตกแยก ตนเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ที่ผ่านมากรรมการบริหารพรรคได้สื่อสารพูดคุยกับ ส.ส.ที่มีการประชุมมาตลอดไม่มีปัญหาอะไร