ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. ลดลงต่ำสุดในรอบ 27 เดือน กังวลภาษีทรัมป์ 
GH News June 12, 2025 06:43 PM

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค.68 ลดลงต่ำสุดในรอบ 27 เดือน กังวลนโยบายทรัมป์ 2.0 กระทบเศรษฐกิจไทยชะลอตัว

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) เดือนพฤษภาคม 2568 ปรับตัวลดลงจากระดับ 55.4 เป็น 54.2 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 27 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นมา

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าส่วนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากระดับ 39.8 เป็น 38.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวลดลงจากระดับ 62.9 มาอยู่ที่ระดับ 61.7 ทั้งนี้ การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แสดงว่าผู้บริโภค มีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจากนโยบาย ภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเริกา (ทรัมป์ 2.0) และรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

“แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว 2 ครั้งรวม 0.5% โดยผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้าและการเข้าถึงสินเชื่อลำบาก”นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 48.1 51.9 และ 62.7 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนเมษายน ที่อยู่ในระดับ 49.3 53.0 และ 63.9 ตามลำดับ

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าฉะนั้น การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ หรือคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพสูง ตลอดจนปัญหาสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้

“นอกจากนี้ ไทยยังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เมษายน และ พฤษภาคมเริ่มติดลบ แม้ว่าจะเกิดจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่เมื่อพิจารณาตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานจะเห็นว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า1% เช่นกัน ชี้ให้เห็นว่ากำลังซื้ออ่อนแอ ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยชะลอแบบถลำลึกไทยอาจจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้”นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส2 ว่าคาดว่าจะโตเพียง 1% ส่วนช่วงครึ่งปีแรกอาจโต 2% ซึ่งหากช่วงครึ่งปีหลังรัฐบาลไม่สามารถผลักดันให้เศรษฐกิจโตได้ 2% อาจฉุดให้จีดีพีไทยทั้งปีนี้โตต่ำกว่า2%

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าทั้งนี้รัฐบาล จะต้องเร่งการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.75แสนล้านบาทโดยเร็วเร่งฟื้นตลาดท่องเที่ยวจีนผลักดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน ขณะที่ ธปท.จะต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5% ภายในปีนี้ รวมทั้งแก้ปัญหาการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภาซึ่งจะส่งผลต่อการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้า ซึ่งหากทำได้ คาดว่าจีดีพีไทยปีนี้น่าจะโตได้ 1.5-2 %ตามเป้าเดิม

นายธนวรรธน์ กล่าวว่าอย่างไรก็ตามจะต้องจับตามาตรการภาษีตอบโต้แบบเท่าเทียม” หรือ “Reciprocal Tariff” ของสหรัฐอเมริกาหลังครบกำหนดผ่อนผันในวันที่ 7 ก.ค.2568 โดยหากไทยและประเทศต่างๆ เจรจาไม่สำเร็จ โดยสหรัฐฯประกาศใช้ภาษีตอบโต้ทุกประเทศทั่วโลกคาดว่าจะส่งผลกระทบฉุดให้จีดีพีไทยลดลง 2% และอาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้โตต่ำกว่า1%

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.