ปากกาขนนก / สกุล บุณยทัต

“..เราทุกคน..ต่างหาโอกาสแห่งความมุ่งหวังที่จะก้าวไปเบื้องหน้าเพื่อเข้าสู่ความสุขสำเร็จต่อพัฒนาการของชีวิตอันมีคุณค่า..เราต่างดิ้นรนแสวงหาหนทางนานา ทั้งด้วยการดิ้นรนเรียนรู้ มานะบากบั่นในการเคี่ยวกรำชีวิต รวมทั้งอดทนที่จะทำงานและงานเพื่อจะได้เกื้อกูลชีวิตให้งอกงาม..!

เชื่อกันว่า.. “การจะขึ้นสู่ที่สูงของชีวิตนั้น..จักต้องโลดทะยานด้วยบันไดแห่งความสำเร็จ” นั่นคือ “กุญแจคำ” ..อันมีค่า..ที่ชีวิตได้ให้สำนึกในความเป็นชีวิต..กระทั่งกล้าประกาศเจตจำนงแห่งศักยภาพส่วนตนออกมา..เพื่อสร้างคุณค่าที่อยู่เหนือคุณค่าแห่งความจอมปลอมใดๆให้เกิดขึ้น..อันหมายถึงในเชิงเปรียบเทียบว่า..

“..ระหว่างความรู้และการศึกษา..นั่นถือว่า..การศึกษา สามารถเป็น “บันได” หรือ “ทางลัด” ที่ช่วยนำพาเราไปสู่ความสำเร็จ ได้ง่ายกว่าและมากกว่า..!!”

นั่นคือ..ปฐมบทแห่งหนังสือของการปลูกสร้างตัวตนผ่านนิยามแห่งการทะยานขึ้นสู่ที่สูงของตัวตน..ด้วย “บันไดทองชีวิต”..พร้อมหลักการปฏิบัติแห่ง “สิบพลังก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ” (Golden Life Ladders:Ten Success Pulleys)..โดยปราชญ์คนสำคัญของประเทศ.. “ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์” ..ผู้เน้นย้ำให้ได้ตระหนักคิดร่วมกันว่า

..ณ เวลานี้..องค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น ครู อาจารย์ สถาบันการศึกษา และวุฒิการศึกษา..สามารถเป็น “บันไดการศึกษา” ..ที่ช่วยสนับสนุนส่งเสริม.และ เพิ่มโอกาสที่ดีกว่าในการก้าวสู่อนาคต..แม้ในยุคที่มีคนจำนวนหนึ่งเห็นว่า.. “การศึกษาไม่จำเป็นอีกต่อไป..ใบวุฒิก็เป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง อยากสำเร็จเน็ตเร็ว..เรียนรู้เองได้?!”

..แต่ในความเป็นจริง.."การมีความรู้จากการศึกษาอย่างเป็นทางการ มักมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้มากกว่า..และการเรียนรู้ที่จะใช้บันไดการศึกษาอย่างจัดระบบด้วย ก็ย่อมจะต้องเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จในอนาคต..ได้มากกว่าอย่างแน่นอน!!!

..โดยความเป็นจริง..การพัฒนาคนในประเทศผ่านระบบการศึกษา ไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธได้เลยว่าไม่สำคัญ..เพราะว่า.การศึกษาคือสิ่งที่มีพลังมหาศาล สามารถพลิกวิกฤตฟื้นฟูสู่จุดหมายปลายทางที่ดียิ่ง..ขึ้นได้.. “ยิ่งผู้คนในประเทศมีการศึกษาสูง เศรษฐกิจของชาติก็จะพัฒนาสูงขึ้นไปด้วย ..จากข้อมูลของ “Our World in Data”..ข้อมูลในปีค.ศ.2023..ที่เกี่ยวกับดัชนีต่อการพัฒนามนุษย์ กับ GDP ต่อหัว.พบว่า..ยิ่งการศึกษาเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ GDP ในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย.”

“ศ.ดร.เกรียงศักดิ์” ..ได้ระบุถึงประเทศสิงคโปร์เป็นตัวอย่าง..ที่ประเทศนี้..สร้างชาติด้วยการศึกษา..และส่งผลให้ประเทศชาติก้าวหน้าอย่างโดดเด่น..ตั้งแต่ครั้งเริ่มต้นสร้างประเทศ จวบจนปัจจุบันประชากรสิงคโปร์ที่ได้รับการศึกษามีคุณภาพ ช่วยเสริมให้สิงคโปร์เป็นประเทศพัฒนาระดับแถวหน้าของโลก..จากประเทศยากจนข้นแค้น ..ก้าวขึ้นสู่ประเทศอันดับต้นๆที่มีGDP ต่อหัวสูงถึง 78,114.62 ดอลลาห์สหรัฐฯ เป็นอันดับ สิบของโลก และขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของเอเชีย ที่มีผลิตภัณฑ์ มวลรวมต่อหัวในประเทศสูงที่สุด..!

.. “ลี กวน ยู” ..รัฐบุรุษอดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์..เคยกล่าวถึงในเรื่องการศึกษาไว้ว่า.. “ความโชคดีของสิงคโปร์อย่างหนึ่งคือ..แม้เป็นประเทศเล็กแต่มีคนเก่งเยอะ..เพราะพวกเขาเน้นเรื่องการศึกษามาตลอด..”

แม้แต่ในปัจจุบัน..ประชาชนชาวสิงคโปร์ก็ยังคงได้รับการยอมรับ และเข้าไปทำงานในแวดวงต่างๆได้ทั่วโลก..เพราะพวกเขามี “บันได” จากการศึกษาที่มีคุณภาพระดับสากล..ที่ช่วยเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จ ในการทำงานได้.. !

“หนังสือ.ถูกจัดวางและแบ่งออกเป็นสิบบท.. “สิบบันไดทอง” ของชีวิตที่นำไปสู่ความสำเร็จได้..ประกอบด้วยบันไดครอบครัว..ที่นับเป็นบันไดแรกของชีวิต ที่มีสมาชิกครอบครัว ตั้งแต่พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พี่น้อง เครือญาติ วงศ์ตระกูล..ทั้งหมดสามารถมีส่วนร่วมเป็นบันไดช่วยสนับสนุน ส่งเสริม เกื้อกกูล เป็นทางลัดให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้..โดยครอบครัวจะช่วยเป็นบันไดให้กับเราช่วยเหลือลูกหลานและคนในครอบครัว..ภายใต้วิธีการต่างๆ..

“มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก...ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก..ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก..โดยพ่อของเขาได้จ้างครูสอนคอมพิวเตอร์ส่วนตัวให้เขาตั้งแต่อายุเพียงสิบขวบเพื่อพัฒนาความสามารถทักษะด้านโปรแกรมมิ่ง..การสนับเช่นนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้..มาร์คสามารถสร้างสรรค์ผลงานและก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการเทคโนโลยีระดับโลกได้..ในที่สุด”

*บันไดการศึกษากับบันไดความเชี่ยวชาญ..บันไดการศึกษา..จะช่วยสร้างทางลัดสู่ความสำเร็จได้เร็ยวยิ่งขึ้น ผ่านบุคคลและสิ่งต่างๆ ภายใต้ระบบการศึกษาอันประกอบด้วย..ครูอาจารย์ สถาบันการศึกษาและวุฒิการศึกษา..ซึ่งทั้งบุคคลและสถาบันเหล่านี้..ควรจะต้องปรับตัวให้เป็นบันไดชีวิตแก่ศิษย์ได้อย่างมีคุณภาพ..รวมทั้งเป็นบันไดแห่งความเชี่ยวชาญ ที่ได้เพียรพยายามด้วยหนึ่งสมองสองมือของตัวเอง ด้วยการฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญ..

“ผู้เชี่ยวชาญ  จะตัดสินใจอย่างรอบรู้ โดยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหัวข้อนั้นๆ โดยสามารถคาดการณ์และพิจารณา ถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมาในระยะยาวได้..สามารถสอนและให้คำปรึกษาแก่ผู้อื่น แบ่งปันความรู้และประสบการณ์เพื่อให้ผู้อื่นเติบโต และพัฒนาในสาขานั้นๆได้..!”

บันไดผู้นำและบันไดผู้อุปถัมภ์...ผู้นำในฐานะผู้บังคับบัญชา หัวหน้างาน พี่เลี้ยง ผู้สอนงาน..ย่อมต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้อง สนับสนุน ส่งเสริม และผลักดันสู่ความเติบโต ..ในสายอาชีพงานนั้นๆ..ส่วนผู้อุปถัมภ์จะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการเติบโต ผ่านการมีทรัพยากรชีวิตที่เอื้อต่อความสำเร็จ..สิ่งสำคัญก็คือการเรียนรู้ถึงว่า..จะได้ผู้อุปถัมภ์มาสู่ชีวิตของเราได้อย่างไร?ก่อน “..ผู้อุปถัมภ์เป็นบันไดให้ผู้รับการอุปถัมภ์ ได้มีโอกาส “ปลดปล่อยพรสวรรค์”...”

*บันไดคู่ครองกับบันไดเครือข่าย..มีผลในเชิงว่า..บันไดคู่ครองหรือบันไดคู่ชีวิตนั้น..มี การประกอบอาชีพ หรือกระทั่งในด้านความมั่นคงทางการเงิน..ส่วนในด้านของเครือข่าย..มันสร้างความสำคัญที่มีคุณค่าอันนำไปสู่โอกาสแห่งความสำเร็จได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยคนกลุ่มนี้ ประกอบด้วยเพื่อนร่วมงาน ผู้มีอำนาจหรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสนับสนุนเราในเรื่องต่างๆ...

“..ไม่ว่าใครก็ตาม ที่อยากจะทำอะไรให้ได้ผลสำเร็จมากๆ แต่ถ้าทำเครือข่ายไม่เป็น ..ก็ทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ยาก..!”  .

*มาถึง..บันไดชุมชนสังกัดและบันไดทายาท....ว่ากันว่าชุมชนที่เราเข้าไปสังกัด..จะเสริมส่งและพัฒนาเราได้ทั้งด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต สามารถสร้างโอกาสในการเข้าถึง ทรัพยากร ความรู้ ตลอดจนขบวนการที่เราสามารถจะเสริมส่งคนในสังกัดให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไรบ้าง.เช่นเดียวและคล้ายเหมือนกับบันไดทายาท..เพราะหากเราต้องการหรือรักษา สืบสาน และต่อยอดถึงสิ่งที่ทำให้เจริญงอกงาม..ต่อไปก็จำเป็นต้องมีทายาทหรือคนรุ่นต่อไปทำหน้าที่นี้..!

“หากไม่มีทายาทสานต่อคนรุ่นก่อน สิ่งที่สร้างมาก็อาจไม่ถึงคนรุ่นต่อไป ..!!!?” บันไดสุดท้ายคือบันไดแห่ง “จิตภาพ”..อันหมายถึงบันไดที่มีหลักธรรมที่ดีแท้ งามแท้ และ จริงแท้..เป็นเครื่องกำกับชีวิต. .เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สดเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ..

“บันไดจิตภาพ..จึงหมายถึง การนำความเชื่อศรัทธา..ในสิ่งเหนือธรรมชาติ และ หลักธรรมคำสอน..ที่เชื่อว่า ดีแท้ งามแท้ จริงแท้ มากำกับเป้าหมาย...และทิศทางในการดำเนินชีวิต.!.”

ในชีวิตของคนเราทุกคน..ย่อมมีผัสสะกับบันไดในโครงสร้างหรืออุปกรณ์ปีนป่ายขึ้นที่สูงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ บ้านเรือน ตึกสูง หรืออาคาร นานาชนิด..มันเป็นสัญญะของการโลดทะยานไปข้างหน้า..ทั้งด้วยความมุ่งหวังของจิตใจและอารมณ์...รวมทั้งภูมิปัญญาอันสลับซับซ้อนเหลือคณานับ..

.. “บันได” ในความหมายเชิงปัญญาญาณจากหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด..จึ่งคือข้อพิจารณาอย่างรอบด้านในการเรียนรู้และรับรู้ระหว่างชีวิตต่อชีวิต..มิใช่เงื่อนไขเชิงมายาคติ..แต่มันเป็นบทพิสูจน์แห่งสัจธรรมที่หลอกตาหลอกใจไม่ได้..ยิ่งอ่านเราก็ยิ่งจะค้นพบ..ยิ่งเจาะเข้าไปสู่ศูนย์กลางของการตีความเราก็ยิ่งจะพบกับคำตอบอันอเนกอนันต์จากคมความคิดของนักคิดในโลกนี้มากมาย..และมาสรุปจบลงตรงผู้เขียน ผู้ตีความ  และผู้รังสรรค์เนื้อในของหนังสือเล่มนี้อย่างลงรากลึก และทายทักถึงว่า..บางที ณ โอกาสแห่งอนาคต..หนังสือเล่มนี้อาจคือ “คำพยากรณ์” ..อันเป็นผลรวมเฉพาะที่ล้ำลึกของยุคสมัยที่จำเป็นต้องขุดลึกลงไป..ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้..และเมื่อนั้น..เราอาจจะได้พบกับ “พื้นที่เอกภพ”..ที่เป็นบันไดทอดยาวสู่จิตวิญญาณอันเติบกล้าและสะท้อนแสงแห่งภูมิปัญญาอันไม่รู้ดับ..ออกมา..ในที่สุด..!!

“..การมีบันไดชีวิต ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยเสริมสร้างความมุ่งมั่นและพลังใจ..ให้เราสามารถพัฒนาตนเองในทุกมิติ ทั้งในด้านทักษะและลักษณะของชีวิต..เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่..กว่าเดิม.. !!”