ตลาดโรงเกลือเงียบเหงา หลังเศรษฐกิจซบเซา–ข่าวลือปิดด่านยังส่งผลต่อเนื่องพ่อค้าแม่ค้าชายแดนรอดูท่าที ชาวกัมพูชาทยอยกลับประเทศหวังสิทธิ์ที่ดิน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 14 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงากว่าช่วงที่ผ่านมา โดยพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ให้ข้อมูลตรงกันว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว อีกทั้งเกิดน้ำท่วมในตลาดเมื่อเร็ว ๆ นี้ยังส่งผลให้การค้าขายไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ยังคงฉุดการค้าชายแดนไว้ คือ ผลกระทบต่อเนื่องจากข่าวลือเรื่องการปิด-เปิดด่านระหว่างไทย–กัมพูชา เมื่อวานนี้ แม้หน่วยงานรัฐจะชี้แจงแล้วว่าเป็นเพียงข่าวลือ แต่ความไม่มั่นใจยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ไม่กล้าเดินทางกลับเข้ามาค้าขาย เพราะเกรงว่าหากด่านถูกปิดกระทันหัน จะไม่สามารถกลับไปหาครอบครัวได้ทันเวลา จึงตัดสินใจปิดร้านและเฝ้ารอดูท่าทีของสถานการณ์ขณะเดียวกัน แม่ค้าบางส่วนยังคงเปิดร้าน แม้จะทราบดีว่าลูกค้าบางตา แต่เลือกอยู่ฝั่งไทยต่อไป เพราะมั่นใจว่าสถานการณ์ยังปกติ และไม่มีเหตุความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้น โดยบางรายระบุว่า แม้ครอบครัวทางฝั่งกัมพูชาจะโทรมาสอบถามด้วยความกังวล แต่ก็ยืนยันกลับไปว่า "ฝั่งไทยปลอดภัยดี ไม่มีอะไรต้องห่วง
สำหรับในด้านความนิยมสินค้าไทย ชาวกัมพูชาหลายคนยังแสดงความเชื่อมั่นว่าสินค้าไทยยังเป็นที่ต้องการสูง และแม้จะเกิดกระแสข่าวตึงเครียด แต่ไม่มีแนวโน้มจะกักตุนสินค้า เพราะเชื่อว่ายังสามารถเดินทางข้ามแดนเพื่อซื้อได้ตามปกติ ส่วนกระแสวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะละครโทรทัศน์ ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยแม่ค้ารายหนึ่งเปิดเผยว่า ตนติดละครไทยมาก แต่รับชมผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก จึงไม่กังวลเรื่องสัญญาณหรือผลกระทบใด
สำหรับการเดินทางกลับของแรงงานกัมพูชาจากฝั่งไทยที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากครอบครัวฝั่งกัมพูชาแสดงความเป็นห่วง และไม่มั่นใจในสถานการณ์ หากมีการปิดด่านก็จะไม่สามารถกลับเข้าประเทศได้ทัน อีกสาเหตุหนึ่งคือ กระแสข่าวที่ว่า รัฐบาลกัมพูชาเตรียมจัดสรรที่ดินให้ประชาชน ทำให้แรงงานจำนวนหนึ่งเร่งเดินทางกลับเพื่อไปแสดงตนและดำเนินการยืนยันสิทธิ์ในการรับเอกสารที่ดิน ทั้งนี้ แม้บรรยากาศการค้าชายแดนในวันนี้จะยังไม่กลับมาคึกคักดังเดิม แต่ยังคงมีความหวังว่าหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และมีการสื่อสารที่ชัดเจนจากทั้งสองประเทศ พ่อค้าแม่ค้าจะสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง.