หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 75 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...
ลมเปลี่ยนทิศ การเมืองเปลี่ยนทาง เมื่อวันนี้ “เพื่อไทย” อาจไม่ได้อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง ถืออำนาจ “ต่อรอง” ในทางการเมือง เมื่อทันทีที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศว่า “พร้อมเป็นฝ่ายค้าน” คล้ายกับว่า “ท้าทาย” แสดงให้เห็นว่า หากปรับครม.รอบนี้ “ภูมิใจไทย” ถูกยึด “มหาดไทย” ขึ้นมาจริง ๆ ทางออกของ “ความขัดแย้ง” มีทางให้เดินเพียงทางเดียว คือไปเป็น “ฝ่ายค้าน” แน่นอน...*...
แต่ช้าก่อน!! การที่ “เพื่อไทย” คิดจะเขี่ย “พรรคสีน้ำเงิน” ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จะทำได้จริงหรือ ? จะแน่ใจได้อย่างไรว่าการดำรงอยู่ของ “เพื่อไทย” จะราบรื่น ไปตลอดรอดฝั่ง หรือจะฝากความหวังเอาไว้ที่ “พรรคกล้าธรรม” เร่งเสาะหา สะสม “สส.” ดึงมาจาก “ฝ่ายค้าน” ไม่ว่าจะเป็น “พรรคสีส้ม” หรือ “พรรคลุงป้อม” จะได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะในระหว่างนี้ “ภูมิใจไทย” ใช้ไม้เด็ด ดึง “กลุ่มเพชรบูรณ์” ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่มีด้วยกัน “6สส.” รอเข้าพรรคสีน้ำเงิน โชว์อานุภาพให้เห็นกันจะๆ ...*...
การเมืองว่าด้วยเรื่องความขัดแย้ง ไปจนถึง “ปรับครม.” ทำวุ่นวาย จนประชาชนเริ่มเบื่อหน่าย “นักการเมือง” ที่ยังแย่งเก้าอี้กันไม่เลิก ทั้งที่สถานการณ์รอบบ้าน ในเมืองยามนี้ เผชิญกับ “ปัญหาปากท้อง” ข้าวยากหมากแพง มิหนำซ้ำ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ในโหมดที่ “กองทัพ” เตรียมพร้อม ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อม เดือดร้อนไปถึง “พระ-เณร” ยังต้องทำหลุมหลบภัย ในจังหวัดที่อยู่ใกล้แนวปะทะ ระหว่างประเทศ “นักการเมือง” รู้ร้อน รู้หนาวกันบ้างหรือไม่...*...
“นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ปรากฏว่า ประชาชนไว้ใจ “กองทัพ” มากกว่า “รัฐบาล” และ “กระทรวงการต่างประเทศ” โดยเฉพาะท่าทีของ “ผู้นำรัฐบาล” ที่เหมือนจะ เป็นฝ่าย “ง้อ” และ “หงอ” กับฝ่ายกัมพูชาจนเกินเหตุ จนล่าสุดเวทีเจบีซี ที่กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ชัดเจนว่า “กัมพูชา” ไม่ให้ความสำคัญบนโต๊ะเจรจาเจบีซี ไม่เช่นนั้น “พล.อ.ฮุน มาเนต” นายกฯกัมพูชา คงไม่ประกาศว่ากัมพูชายื่นฟ้อง “ศาลโลก” ไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ “ไทย-กัมพูชา” ยังอยู่ในการประชุมเจบีซี ...*...
“พล.อ.ฮุน มาเนต” เปิดเผยว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพรมแดนในพื้นที่ 4 จุดคือ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และที่ช่องบก มิหนำซ้ำยังย้ำด้วยว่า เหตุการณ์ 15 มิ.ย.68 เป็นความบังเอิญในวันนี้เมื่อ 63 ปีที่แล้ว 15 มิ.ย.2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้ตัดสินให้กัมพูชาชนะคดี “ปราสาทพระวิหาร” ...*...
ท่าทีของ “ผู้นำรัฐบาลไทย” แม้ไม่ต้องถึงขั้น “แข็งกร้าว” แต่ต้องไม่ใช่ “หงอ” จนทำให้ประชาชน มีความสงสัย และขาดความเชื่อมั่น อย่าลืมว่า ที่ประชาชน สนับสนุน “กองทัพ” ไม่ได้หมายความว่า มีใคร “กระหายสงคราม” แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ที่ทับซ้อน และซับซ้อน ระหว่าง “ครอบครัวฮุนเซน” กับ “ครอบครัวชินวัตร” บวกกับท่าทีของ “ผู้นำรัฐบาลไทย” เชิญชวนให้คนอยากจะหันมา “ไล่รัฐบาล” แทน ! ...*...
ที่มา:พันแสง (16/06/68)
