โฆษก ภท. ยัน อนุทิน -กก.บห.พร้อมชี้แจง กกต.คดีฮั้ว สว. มั่นใจไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ลั่นฟ้องกลับชุดไต่สวน
วันที่ 16 มิ.ย.68 น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีที่ กรรมการการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ส่วนกลาง) คณะที่ 26 เชิญหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย รับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา เกี่ยวกับการเลือกสว. ว่า ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือในการชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน โดยมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากทุกคนไม่มีส่วนร่วมในการเลือก สว. และหัวหน้าพรรคได้เคยประกาศห้ามกระทำการใด ๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสมาชิกทุกคนได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
สำหรับข้อกล่าวหาที่แจ้งมา 4 ประเด็น คือ 1.การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับประเทศ 2.การจ่ายเงินให้เป็นค่าจ้าง จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเลือก สว. 3.การทำโพยฮั้วเลือก สว. 4.การให้ผู้สมัครเลือก สว.ที่ผ่านการเลือกระดับจังหวัด เขียนใบลาออกล่วงหน้าโดยไม่ลงวันที่ พรรคภูมิใจไทยมองว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นการขัดหลักพื้นฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรงและร้ายแรงสำหรับพรรค ที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยมาโดยตลอด ทุกคนที่ถูกกล่าวหาจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของตนเอง
น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวอีกว่าว่า หนังสือแจ้งข้อกล่าวหาที่ทุกคนได้รับมีข้อความเหมือนกันทั้งหมด โดยไม่มีรายละเอียด พฤติกรรม วันเวลาการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งแตกต่างจากการแจ้งข้อกล่าวหาของ กกต. ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ เนื้อหาของข้อกล่าวหาครั้งนี้ยังใกล้เคียงกับข้อมูลที่ พล.ต.ท. คำรบ ปัญญาแก้ว และนายณฐพร โตประยูร เคยร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ และเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดยมีพนักงานจาก DSI 3 ท่านร่วมอยู่ในคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนนี้ด้วย พรรคจึงมองว่ามีพฤติกรรมที่แปลกและแตกต่างจากมาตรฐานของ กกต. ที่ผ่านมา
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมและการดำเนินสอบสวนไต่สวนของคณะที่ 26 ถูกชี้นำหรือครอบงำโดยพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ และอาจเกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นไปตามแผนยุบพรรคภูมิใจไทย เป็นการกระทำเป็นขบวนการ ทั้งบุคคลที่เปิดเผยตัวและบุคคลที่เคลื่อนไหวในทางลับ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคจะขอใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ์และรักษาเกียรติของพรรคภูมิใจไทย