เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.68 นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า การโจมตี อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน จะไม่กระพือความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน แต่จะทำให้สงครามยุติลง

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยปฏิเสธแผนของอิสราเอลในการสังหารผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้สถานการณ์ลุกลามออกไป นายเนทันยาฮูกล่าวว่า "มันจะไม่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม แต่มันจะยุติความขัดแย้งต่างหาก"

"เราเผชิญกับความขัดแย้งมานานกว่าครึ่งศตวรรษจากระบอบปกครองของอิหร่าน ซึ่งทำการก่อการร้ายไปทั่วตะวันออกกลาง ทำการบ่อนทำลาย และการก่อวินาศกรรมในทุกที่ อิหร่านต้องการสงครามไม่มีที่สิ้นสุด และกำลังนำเราไปสู่ขอบเหวของสงครามนิวเคลียร์ แต่สิ่งที่อิสราเอลทำอยู่คือการหยุดยั้งความก้าวร้าวนี้"

ต่อถามที่ว่า อิสราเอลจะโจมตีผู้นำสูงสุดของอิหร่านจริงหรือไม่ นายเนทันยาฮูตอบว่า "เรากำลังทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ผมจะไม่ลงลึกในรายละเอียด แต่เราเคยกำจัดนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ระดับสูงของพวกเขาแล้ว"

นายเนทันยาฮูกล่าวว่า สหรัฐควรสนับสนุนอิสราเอลในการกำจัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน พร้อมระบุว่า "วันนี้คือเทลอาวีฟ พรุ่งนี้ก็อาจเป็นนิวยอร์ก ผมเข้าใจ 'America First' แต่ผมไม่เข้าใจ 'America Dead' พวกนั้นอยากให้สหรัฐตาย พวกเขาตะโกนว่า 'ความตายจงมีแก่อเมริกา' ดังนั้นสิ่งที่เราทำก็เพื่อมนุษยชาติ มันคือการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว และอเมริกาควรจะอยู่ฝ่ายความดี ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี และผมขอขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้ง"

นอกจากนี้ นายเนทันยาฮูยังปฏิเสธรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัลที่ระบุว่า อิหร่านส่งสัญญาณต้องการยุติการสู้รบ และกลับไปเจรจาโครงการนิวเคลียร์กับสหรัฐ

"ผมไม่แปลกใจเลย พวกเขาแค่ต้องการเจรจาหลอกๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อโกหก หลอกลวง และยื้อเวลา โดยพวกเขาแค่อยากสร้างอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป พร้อมกับขีปนาวุธจำนวนมากที่กำลังยิงใส่เรา พวกเขาอยากสร้างภัยคุกคามต่อการอยู่รอดของอิสราเอลทั้งสองด้าน ขณะที่เจรจาไปด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้"

นอกจากนี้ ต่อกรณีที่นักการเมืองพรรครีพับลิกันบางส่วนคัดค้านการที่สหรัฐสนับสนุนทางทหารต่ออิสราเอล นายเนทันยาฮู ตอบว่า "เราไม่ได้สู้กับศัตรูของเราอย่างเดียว เรากำลังสู้กับศัตรูของพวกคุณด้วย พวกเขาตะโกนว่า 'ความตายแก่อิสราเอล ความตายแก่อเมริกา' พวกเราเป็นเพียงสิ่งกีดขวางระหว่างทางเท่านั้น และเรื่องนี้จะไปถึงอเมริกาอย่างแน่นอนในไม่ช้า นี่ไม่ใช่แค่ภัยคุกคามต่ออิสราเอล แต่มันเป็นภัยต่อทั้งโลก ทั้งต่อเพื่อนบ้านอาหรับของเรา ต่อยุโรป และต่ออเมริกา"