สำนักงานงบประมาณ แจ้งนายก อบจ. ริบงบภัยแล้ง 5.1 หมื่นล้าน หลัง ป.ป.ช.รับคำร้องขัดมาตรา 144 โยง ‘ประเสริฐ’ จัดสรรงบให้ ส.ส.พท.คนละ 50 ล้านบาท
จากกรณีที่มีกระแสข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน รับเรื่องให้ไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568
โดยปีดังกล่าวมีการอนุมัติโครงการทั้งสิ้น 28,990 โครงการ และปรากฏว่าชื่อ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกำกับดูแล สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นผู้อนุมัติเสนอเข้าสู่ที่การประชุม ครม. รวมงบประมาณทั้งสิ้น 51,584.00817 ล้านบาท
พร้อมกล่าวหา มีการจัดงบประมาณการแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับนักการเมืองพรรคพท. คนละ 50 ล้านบาท อาทิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ อดีต ส.ส.พรรค พท. นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผอ.สำนักงบประมาณ เป็นต้น มีการจัดงบประมาณการแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับนักการเมืองพรรค พท.คนละ 50 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144
ทั้งนี้ ในวันที่ 10 มิถุนายน นายประเสริฐได้ออกมาแถลงข่าว ยืนยันไม่กังวล พร้อมให้ตรวจสอบ เพราะดำเนินการตามโครงการครบถ้วนและ ไม่มี ส.ส.เพื่อไทยเข้าไปเกี่ยว
อย่างไรก็ตาม วันที่ 12 มิถุนายน มีหนังสือด่วนที่สุด จาก น.ส.ณัฐฐวรรณ อินทรทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณเขตที่ 7 ปฏิบัติราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ทำหนังสือถึง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหนึ่ง
เรื่อง ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568
ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงบประมาณอนุมัติให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหนึ่ง เบิกจ่าย งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
สำนักงบประมาณมีความประสงค์จะขอถอนเรื่องดังกล่าวไปก่อน เพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดดังกล่าวทบทวนความจำเป็น และความเหมาะสมในการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณาดำเนินการต่อไป