"เรืองไกร" เตรียมร้อง กกต.สอบคลิปเสียง "ฮุนเซน" อาจสะเทือนตำแหน่ง "นายกฯอิ๊งค์"
GH News June 18, 2025 09:09 PM

“เรืองไกร” เตรียมร้อง กกต. ตรวจสอบคลิปเสียง “ฮุนเซน” จะเป็นเหตุให้ “นายกฯอิ๊งค์” มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) พ้นจากตำแหน่งนายกฯหรือไม่

วันที่ 18 มิ.ย.68 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า พรุ่งนี้เวลา 10.00 น. จะไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้ กกต.ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  ว่า มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่    และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือมีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังนี้

1. เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2568 ปรากฏข้อเท็จจริงตามสื่อมวลชนต่างๆ ที่เป็นข่าวเกี่ยวกับข้อความสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุนเซน โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 68 ซึ่งข้อเท็จจริงในการสนทนาได้มีการยอมรับจากนายกรัฐมนตรี  กับสมเด็จฮุนเซน ว่าเป็นคลิปเสียงจริง ซึ่งสาระสำคัญที่สนทนานั้น อาจส่อไปในทางที่ทำให้เห็นได้ว่านายกรัฐมนตรี  อาจเข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และอาจเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ซึ่ง กกต. มีอำนาจตรวจสอบกรณีดังกล่าวได้ 

2. เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ศาลรัฐธรรม นูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 21/2567 ไว้บางส่วน ดังนี้  “...เพราะความหมายของคําว่า “ซื่อสัตย์” และคําว่า “สุจริต” มิใช่เป็นเพียงเรื่องการกระทำทุจริต หรือประพฤติมิชอบเท่านั้น แต่ต้องเป็นการกระทำให้วิญญูชนทั่วไปที่ทราบพฤติการณ์หรือการกระทำนั้นแล้ว ยอมรับว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จึงจะถือได้ว่า เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”

3. บทสนทนาตามคลิปเสียงที่ปรากฏนั้น อาจทำให้นายกรัฐมนตรีเข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ตามมาได้

4. มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 8 และข้อ 17 กำหนดว่า “ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และ ข้อ 17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง

5. กรณี จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบข้อความในคลิปเสียงดังกล่าวว่าจะเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  เข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป้นที่ประจักษ์ หรือไม่    และข้อ 6. ทั้งนี้ ขอให้นำคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขแดงที่ คมจ.2/2566  ที่วินิจฉัยไว้ตอนหนึ่งว่า “...จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8  ทั้งการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบกระทบต่อภาพลักษณ์และเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้คัดค้านที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี... เพราะอาจทำให้สาธารณชนขาดความเชื่อถือศรัทธาต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี... จึงเป็นการก่อให้ความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ...”

นายเรืองไกร กล่าวว่า พรุ่งนี้จะไปยื่นหนังสือด้วยตนเอง เนื่องจากมีนัดไปให้ถ้อยคำต่อ กกต. ในกรณีอื่นไว้แล้ว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.