'วันนอร์' ไม่กังวลเสียงปริ่มน้ำไปต่อได้ ชี้ 'ลุงป้อม' ยังมีลุ้นชิงนายกฯ
GH News June 20, 2025 02:07 PM

‘วันนอร์’ อ้างเสียงปริ่มน้ำ ผ่านมาหลายยุค​สภาเดินหน้าได้ มองรัฐบาลอายุยาวหรือสั้น​อยู่ที่ฝ่ายบริหาร​ ยันคนนอกหมดสิทธิ์นั่งนายกฯ ขี้ ‘บิ๊กป้อม’ ยังมีลุ้น แม้เสียง พปชร. ไม่ถึง 25 คน แจงยึดบัญชีเดิม

20 มิ.ย. 2568 – ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์​ มะทา​ ประธานสภาผู้แทนราษฎร​ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ที่เสียง สส.​ ของรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนว่า การเมืองก็เปลี่ยนไปตามวาระของการเมือง แต่สภาฯ มีหน้าที่ ในการจัดการประชุม ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนคิดว่าความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็คงเปลี่ยนแปลงในส่วนของรัฐบาล และสภาฯ ต้องดำเนินการไปตามปกติ

เมื่อถามว่า รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะทำให้การทำงานในสภาลำบากขึ้นหรือไม่​ นายวันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า​ สภา เราเคยผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งที่มีเสียงข้างมากค่อนข้างเด็ดขาด เวลาบริหาร อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน และเสียงปริ่มน้ำ เคยบริหารมาแล้ว ซึ่งมีปัญหา แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาไม่เข้าไปก้าวก่ายกับฝ่ายบริหาร สภาทำหน้าที่ของสภา เพื่อให้การบริหารดำเนินไปได้

ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าอายุรัฐบาลหรือสภาอาจจะสั้น ไม่เกินปีนี้นั้น​ นายวันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศ ทางสภาก็บริหารไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาเท่านั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อายุของรัฐบาลจะยาวหรือสั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีคำแนะนำให้กับนายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศเกี่ยวกับประเด็นปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาอย่างไร​ นายวันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า​ ฝ่ายนิติบัญญัติ และประธานสภา ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่าย เรื่องการบริหารของรัฐบาลได้ เพราะต้องฟังเสียงประชาชน เพื่อที่จะรักษาอธิปไตยของประเทศ​ ตนคิดว่าฝ่ายที่ดูแล และเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งรัฐบาลคงจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

เมื่อถามย้ำว่า ปัญหาไทยกัมพูชาจะมีการหยิบยกเข้าหารือในที่ประชุมสภาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ยังไม่สามารถที่จะนำมาหารือในสภาได้ ดังนั้นในช่วงเปิดสมัยประชุม 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป ตนคิดว่าประเด็นต่างๆ รวมทั้งปัญหาในประเทศ และปัญหาระหว่างประเทศ คงจะมีสมาชิก ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล มาเสนอให้สภาอภิปราย ซึ่งโดยปกติ เราก็ปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องรอให้เปิดสมัยประชุมสามัญก่อน​ ส่วนถ้ามีความสำคัญ ถึงขนาดรัฐบาลเห็นว่า ควรจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ นั้นก็แล้วแต่ รับเป็นอำนาจของรัฐบาล

สำหรับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ว่างลงหลังนายภราดร​ ปริศนานันทกุล​ ลาออกนั้น ประธานสภาฯ ​ กล่าวว่า​ ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะฟังเสียงจากวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่าพร้อมกำหนดการเลือกเมื่อใด ซึ่งเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของสมาชิกสภา​ เพราะถ้าไม่พร้อมหรือยังไม่ตกลงใจว่า ฝ่ายใดจะเสนออย่างไร ก็คงจะต้องรอก่อน ตนคิดว่า เมื่อเปิดสมัยประชุม ในวันที่ 3 ก.ค. หากมีความพร้อม สามารถเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้ แต่หากไม่พร้อมอาจจะเป็นสัปดาห์ที่ 2 เพราะต้องเลือกเดินเร่งด่วน เนื่องจากรองประธานคนที่ 2 จะมาช่วยในการบริหารสภา และเป็นประธานในที่ประชุม เพราะประธาน 2 คน อาจจะหนักไป

ส่วนจะเป็นโควตาของพรรคลำดับ 2 ของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรื่องโควตาเป็นเรื่องภายในวิป แต่ข้อเท็จจริงคือต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นคนเลือก จะมีการเสนอแข่งขันหรือมีเพียงชื่อเดียวก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน แต่ครั้งที่แล้วมีการเสนอเพียงชื่อเดียว หากมีการเสนอ 2 คนต้องมีการลงคะแนน

เมื่อถามว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านยังเปิดได้อยู่หรือไม่ ในสมัยการประชุมหน้า​ นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า ทำได้

เมื่อถามถึงกรณีหากจะต้องมีการต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเดิมของพรรคการเมืองที่มียังสามารถใช้ได้อยู่ใช่หรือไม่นั้น ประธานสภาฯ กล่าวว่า ยังคงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 คือ ต้องเป็นรายชื่อที่เคยเสนอต่อ​คณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว และยังมีชื่อค้างอยู่หลายคน ซึ่งต้องเอาชื่อนั้นมาเสนอ หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรี​ครั้งต่อไป เป็นการเลือกเฉพาะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะไม่มีสมาชิกวุฒิสภามาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีเหมือนครั้งก่อน เพราะมาตรา 272 ที่ให้ สว. ร่วมเลือกนายกฯได้หมดวาระ 5 ปีไปแล้ว

ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐที่มีจำนวน สส. ลดลงเหลือไม่ถึง 25 คน สามารถใช้บัญชีแคนดิเดตเดิม คือพลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ อยู่ได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า ได้ หากมีรายชื่อที่ให้ไว้กับ กกต.​ ก่อนเลือกตั้งอยู่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็เสนอให้สภาโหวตได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องกลับไปถามความสมัครใจของแคนดิเดตแต่ละคนด้วยหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า พรรคไหนเสนอใครขึ้นมาก็ต้องมีการถามก่อนอยู่แล้ว ว่ามีความเต็มใจ ในการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็คงต้องถามเมื่อถามแล้วก็มาเสนอสภาตามรายชื่อเดิมที่มีอยู่

เมื่อถามว่า จะเสนอรายชื่อคนนอกบัญชีแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ก่อนเลือกตั้งเราใช้ บัญชีรายชื่อนี้เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าถ้าเลือกพรรคนั้นคนนั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นก็ต้องให้ความเคารพ ความคิดเห็นของประชาชน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วบทบัญญัติข้อนี้ไม่ได้ยกเลิกไป ยังใช้บัญชีเดิมซึ่งยังมีอยู่หลายคน.

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.