ครอบครัวบัสส์ที่นั่งแท่นเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ทีมบาสเกตบอลชื่อดังในเอ็นบีเอ อย่าง ลอสแองเจลิส เลเกอร์ส มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1979 ยืนยันที่จะขายหุ้นส่วนใหญ่ของพวกเขาให้มหาเศรษฐี มาร์ค วอลเตอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของ แอลเอ ด็อดเจอร์ส ทีมเบสบอลยักษ์ใหญ่ใน เมเจอร์ลีก เบสบอล

“อีเอสพีเอ็น” สื่อชื่อดังของสหรัฐอเมริกา รายงานว่าการขายหุ้นของ แอลเอ เลเกอร์ส หนนี้มีมูลค่าทีมอยู่ที่ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทุบสถิติเดิมในการเทกโอเวอร์ของ บอสตัน เซลติคส์ เมื่อเดือนมีนาคม 6,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับ มาร์ค วอลเตอร์ คือซีอีโอ ของบริษัท ทีดับเบิลยูจี โกลบัล แอนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสต์เมนต์ ที่เป็นพันธมิตรกับกองทุนกักเกนไฮม์ รวมถึงยังเป็นประธานสโมสร และหุ้นส่วนใหญ่ของ ด็อดเจอร์ส และเชลซี ทีมฟุตบอลในเกาะอังกฤษ

ก่อนหน้านี้ มาร์ค วอลเตอร์ ถือหุ้นส่วนน้อยของ เลเกอร์ส มาตั้งแต่ปี 2021 และมีสิทธิเป็นฝ่ายแรกเพื่อยื่นข้อเสนอซื้อหากตระกูลบัสส์ มีแผนขายหุ้นใหญ่ 66% ของตัวเอง ซึ่งสุดท้ายเรื่องดังกล่าวก็เกิดขึ้นในที่สุด ทั้งนี้ จีนี บัสส์ จะยังดำรงตำแหน่งประธานบริหารแฟรนไชส์ “ม่วง-ทอง” ต่อไปหลังจากการซื้อ-ขายกิจการลุล่วง

สำหรับตระกูลบัสส์ เข้ามาเป็นเจ้าของ เลเกอร์ส ตั้งแต่ปี 1979 เมื่อ เจอร์รี คุณพ่อของ จีนี บัสส์ ควักเงินจ่าย 67.5 ล้านเหรียญ​สหรัฐฯ เพื่อเทคโอเวอร์กิจการมาคู่กับทีมฮอกกี้น้ำแข็ง เอ็นเอชแอล ร่วมเมือง อย่าง แอลเอ คิงส์

นักธุรกิจดีกรี ฮอล ออฟ เฟม ของวงการบาสเกตบอล เสียชีวิตลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ตลอด 34 ปี ในฐานะเจ้าของทีม แอลเอ เลเกอร์ส สัมผัสแชมป์ 10 สมัย ก่อนส่งไม้ต่อให้ลูกของตัวเอง

เมื่อคุณพ่อเสียหัวเรือใหญ่จึงตกมาอยู่กับ จีนี เมื่อปี 2017 หลังจากไปสะสางภายในครอบครัวกับพี่-น้องลงตัว ตั้งหลักสักพักทีมก็ได้แชมป์สมัยที่ 17 เมื่อปี 2020 นับเป็นความสำเร็จหนแรก และหนเดียวในยุคสมัยของเธอ