เมื่อเวลา 09.30 วันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม สั่งการให้ พ.ต.ท.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์สว.สส.สน.เพชรเกษม จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (สส.) พร้อมด้วยชุดสืบสวน สน.เพขรเกษม ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวศิรินทิพย์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลแขวงบางบอน ที่ 158/2567 ลงวันที่ 18 ต.ค.67 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา" โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ถ.เทศบาล ต.ดอนสัก อ.คอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 ผู้เสียหายพบมิจฉาชีพได้ทำทีเป็นตัวกลางในการรวมกลุ่มผู้ค้าที่อยากจะขายของทางออนไลน์ โดยเริ่มจากติดต่อไปสั่งซื้อสินค้ากับผู้เสียหาย ซึ่งได้มีการโพสต์ขายรองเท้า ก่อนชักชวนให้เข้ากลุ่มของแอปพลิเคชันไลน์ ที่จะมีหน้าม้าติดต่อซื้อขายของกันในกลุ่มดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ และทำการโพสต์ขายรองเท้าในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม้าทักขอซื้อสินค้า แต่ก่อนจะโอนเงินให้ จะมีมิจฉาชีพทำทีเป็นแอดมินทักมาให้ผู้เสียหายลงทะเบียนเพื่อเปิดร้านค้าสำหรับขายของ โดยคิดค่าธรรมเนียม
เมื่อผู้เสียหายหลงกลลงทะเบียนเปิดร้านค้า ทางแอดมินจะเริ่มชักชวนให้ทำภารกิจ และให้โอนเงินในจำนวนที่มากขึ้น โดยสร้างแพลตฟอร์มปลอมขึ้นมา พร้อมสร้างตัวเลขที่อ้างว่าเป็นรายได้เข้ามาในระบบ จึงยิ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินร่วมทำภารกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอก ก็เสียเงินไปหลักหมื่นบาท
โดย นส.ศิรินทิพย์ ฯให้การว่า ปัจจุบันทำงาน ธุรการที่แพปลา โดยก่อนหน้านั้น มีหลานชายชวนไปเปิดบัญชีที่ปอยเปต โดยข้ามไป 5 วัน และกลับตอนกลางคืน เปิดทั้งหมด 5 บัญชีได้เงินมา หมื่นกว่าบาท โดยรับสารภาพว่า นำเงินไปใช้หนี้ และก่อนตนถูกจับได้เสพยาไอซ์มาเนื่องจากมีอาการเครียด ส่วนสามีตนได้ถูกจับอยู่ในเรือนจำ คดีจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปีที่แล้ว ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี
จากการตรวจสอบประวัติ ของนางสาวศิรินทิพย์ มีประวัติคดี โชกโชน ทั้ง ยาเสพติด และ ฉ้อโกง อีกทั้งยังพบมีหมายจับ ร่วมกันฉ้อโกงฯ อีก 1 หมาย จึงถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีตามกฎหมาย