เปิดประวัติ ‘สมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี’ ประมุขแห่งกัมพูชา สื่อยกให้เป็นบุรุษที่หล่อที่สุด อดีตนักเรียนเช็ก ความสามารถรอบด้าน ถูกยกเป็นที่รักยิ่งของปวงชน
ท่ามกลางข่าวสารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและประเด็นร้อนต่าง ๆ ชื่อของ ‘สมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี’ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาองค์ปัจจุบัน มักเป็นที่กล่าวถึงในสื่อต่างประเทศอยู่เสมอ ไม่ใช่ประมุขของรัฐ แต่ยังถูกพูดถึงในฐานะที่ทรงมีพระสิริโฉมงดงามและพระจริยวัตรอันน่าประทับใจจนสื่อบางสำนักขนานนามพระองค์ว่าเป็น ‘บุรุษที่หล่อที่สุดในกัมพูชา’
เบื้องหลังพระเกียรติยศและฉลองพระองค์อันสง่างาม พระราชประวัติของพระองค์เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าทึ่งและคาดไม่ถึง ราวกับบทภาพยนตร์ที่น่าติดตามเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
จากเจ้าชายศิลปิน สู่เส้นทางการศึกษาในยุโรปสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ และสมเด็จพระราชินีนโรดม มุนีนาถ สีหนุ ประสูติเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 ณ กรุงพนมเปญ ด้วยความสนพระทัยในศิลปะการแสดงตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทำให้เส้นทางชีวิตของพระองค์แตกต่างจากเจ้าชายทั่วไป
ในปี 2505 เมื่อมีพระชนมายุ 9 พรรษา ทรงถูกส่งไปศึกษาต่อที่กรุงปราก ประเทศเชโกสโลวาเกีย (ปัจจุบันคือสาธารณรัฐเช็ก) ซึ่งที่นั่น พระองค์ได้ทรงศึกษาตั้งแต่ระดับประถม, มัธยม จนถึงสถาบันศิลปะการแสดงแห่งชาติ ทรงเชี่ยวชาญด้านดนตรีและการเต้นรำคลาสสิก
ต่อมาในปี 2518 เสด็จฯ สมเด็จพระนโรดม สีหมุนีไปศึกษาต่อด้านภาพยนตร์ที่ประเทศเกาหลีเหนือ
พระองค์ทรงใช้ชีวิตและศึกษาในยุโรปเป็นเวลายาวนาน ทำให้ทรงมีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาเช็ก
หลังจากเสด็จนิวัตประเทศกัมพูชาในปี 2520 ชีวิตของพระองค์ก็พบกับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อรัฐบาลเขมรแดงเข้ายึดอำนาจ พระองค์ทรงถูกจองจำอยู่ภายในพระบรมราชวังพร้อมกับพระราชบิดา พระราชมารดา และพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่น ๆ จนกระทั่งมีการปลดปล่อยในปี 2522
หลังจากนั้น พระองค์ได้เสด็จลี้ภัยไปยังกรุงปักกิ่ง จากนั้นประทับที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลาเกือบ 20 ปี พระองค์ทรงเปิดโรงเรียนสอนเต้นรำ (Ballet) ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นผู้แทนของกัมพูชาประจำองค์การยูเนสโก (UNESCO)
ขึ้นสู่ราชบัลลังก์กัมพูชาในวันที่ 14 ตุลาคม 2547 หลังจากที่พระราชบิดาทรงประกาศสละราชสมบัติ สภาแห่งราชบัลลังก์ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกเจ้าชายนโรดม สีหมุนี ให้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ต่อไป และมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 29 ตุลาคม 2547
ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน ทั้งศาสนา การศึกษา สังคมสงเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสด็จฯ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนราษฎรในถิ่นทุรกันดารด้วยพระองค์เองอยู่เสมอ ทำให้ทรงเป็นที่รักและเคารพของประชาชนชาวกัมพูชาอย่างสูง
ข้อมูลจาก : information.gov.kh