เตือนคนไทยในอิสราเอล-อิหร่าน ออกจากพื้นที่ ย้ายแรงงาน 3,000 คน
Komchadluek June 24, 2025 07:41 AM

23 มิ.ย. 2568 นายนิกรเดช พลางกรู อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลางว่า ไทยได้แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งในสถานการณ์ดังกล่าว ขณะนี้มีความคืบหน้า โดยในประเทศอิสราเอล สถานเอกอัครราชทูต กรุงเทลอาวีฟ และ ฝ่ายแรงงาน รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาค ได้ประสานงานกับบริษัทก่อสร้างที่นำแรงงานชุดแรกจำนวน 22 คน เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว โดยได้เดินทางออกจากอิสราเอลทางบก ในวันที่ 22 มิ.ย. ไปยังประเทศเพื่อนบ้านและจะเดินทางถึงประเทศไทย ในวันที่ 23 มิ.ย. เวลา 19.20 น. 

 

ขณะนี้สถานทูตอยู่ระหว่างการช่วยเหลือคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิสราเอลอีกจำนวน 12 คน เพื่อเดินทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดย 9 คนจะเดินทางออกทางบก ในวันที่ 25 มิ.ย. และอีก 3 คน จะเดินทางออกในวันที่ 3 ก.ค. 

นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตและฝ่ายแรงงานอยู่ระหว่างประสานงานกับกรมการจัดหางาน ภาคการก่อสร้างของไทย ถึงความเป็นไปได้ที่จะย้ายแรงงานก่อสร้างในอิสราเอล อีกประมาณ 3,000 คน ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรอดูสถานการณ์หรือเดินทางกลับไทย 

 

โดยสถานการณ์ในอิหร่าน สถานเอกอัครราชทูตกรุงเตหะราน ให้ความช่วยเหลือคนไทยชุดแรก 3 คน ที่ประสงค์เดินทางออกนอกประเทศ ให้เดินทางออกทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยปลอดภัยแล้ว ตั้งแต่คืนวันที่ 21 มิ.ย.และจะเตรียมการ เพื่อดำเนินการกลับประเทศต่อไป รวมถึงอยู่ระหว่างประสานช่วยเหลือคนไทยในอิหร่านจากเมืองต่างๆอีก 73 คน ที่ประสงค์จะออกจากอิหร่านให้สามารถเดินทางออกทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 

 

นายนิกร ระบุว่า ด้วยสถานการณ์สุ่มเสี่ยงขึ้นอย่างมากในกรุงเตหะราน สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้เปิดสถานที่ทำการชั่วคราวรวมถึงศูนย์พักพิงและให้ความช่วยเหลือคนไทยขึ้นที่โรงแรม อีลิท เวิลด์ แวน ประเทศตุรกี อยู่บริเวณชายแดนติดกับอิหร่าน ซึ่งคนไทยในอิหร่าน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตที่หมายเลขฉุกเฉินเดิมได้ตลอด 24 ชั่วโมง  (+99)912 159 8699 และ (+98)912 500 7933 

เนื่องจากสถานการณ์ในอิสราเอลและอิหร่าน มีความไม่แน่นอนสูง และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงอยากให้คนไทยที่พำนักอยู่ในทั้งสองประเทศ พิจารณาเดินทางออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูตทั้ง 2 แห่งได้ตลอดเวลา 

 

ขณะนี้ความตึงเครียดมีความขยายตัวมากขึ้น จึงขอให้คนไทยในภูมิภาคประเทศต่างๆ ได้ติดตามข่าวสารผ่านประกาศของสถานเอกอัครราชทูตอย่างใกล้ชิด หรือ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Thai Consular เพื่อรับข่าวสารและขอความช่วยเหลือในกรณีจำเป็น และขอให้คนไทยพิจารณาไม่เดินทางไปยังพื้นที่หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด 


ส่วนการอพยพคนไทยออกจากพื้นที่อิสราเอลและอิหร่าน สามารถอพยพทางบกได้เท่านั้น เนื่องจากน่านฟ้าปิด หากคนไทยประสงค์ที่จะเดินทางออก ต้องลำเลียงผ่านประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากในอนาคตมีจำนวนคนที่ต้องการอพยพมากขึ้น ก็จะขอเป็นรายกรณี 


ส่วนที่มีการเปิดน่านฟ้าให้อพยพคนอินเดีย 3,000 คน ออกนอกประเทศ จะสามารถดำเนินการได้เช่นกันหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยมีความประสงค์ที่จะอยู่ในอิสราเอลและยังรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะอพยพ แม้จะแนะนำให้ออกด้วยการให้ความช่วยเหลือ ย้ำว่าหากมีคนไทยมากพอที่ต้องการอพยพก็จะประสานขอเป็นรายกรณี แต่หากเทียบเคียงกับกรณีของประเทศอินเดีย จำนวนคนไทยยังไม่มากพอ 

 


ส่วนการประกาศเข้าร่วมสงครามของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบกับประเทศไทยหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ไม่กระทบกับประเทศไทย เพราะเป็นปัญหาระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ไทยมีท่าทีที่เป็นกลางกลับสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ สำคัญที่สุดตอนนี้คือ ยังไม่กระทบและสามารถช่วยเหลือขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่นด้วย ยืนยันว่าไม่กดดัน เพราะมีท่าทีที่ชัดเจน แต่ยังมีความห่วงกังวล เพราะอยากให้กลับคืนสู่สันติภาพโดยเร็ว 


ส่วนแผนการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานในการอพยพแรงงานออกนอกพื้นที่ ขณะนี้มีศูนย์ติดตามสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นรายชั่วโมง มีระดับขั้นพิจารณาให้คนออก ขณะนี้ยังคิดว่าคนควรจะออกไปยังศูนย์พักพิง แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องอพยพ และสามารถทำได้หากสถานการณ์รุนแรงจนถึงขั้นต้องอพยพ 

 

สำหรับอุปสรรคของการให้ความช่วยเหลือคนไทย นายนิกร ระบุว่า ขณะนี้มีการโจมตีทางอากาศและสถานการณ์มีความเปราะบางสูง คาดการณ์ยาก การลำเลียงคนไทยออกจากพื้นที่จึงต้องใช้ถนน โดยจะต้องดูเส้นทางที่มีความปลอดภัยที่สุด ไม่ใช่สั้นที่สุด อาจจะต้องผ่านเขาและต้องใช้เวลา แต่ทุกอย่างก็ยังมีความเสี่ยง สถานทูตฯได้สำรวจทุกเส้นทางแล้ว เส้นทางอาจจะมีความยาว แต่มีความปลอดภัยทุกเส้นทาง พร้อมย้ำไปยังแรงงานไทยในอิสราเอลและอิหร่านให้เดินทางออกนอกพื้นที่ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และมีการเปิดศูนย์พักพิงรองรับแล้ว พร้อมให้ความช่วยเหลืออยู่ในที่ปลอดภัยและส่งตัวทางกลับประเทศ 

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตที่ทำงานอยู่ในพื้นที่นั้น ยังคงทำงานอยู่ตลอด ด้วยความพร้อมและเต็มใจช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยาก ถือเป็นความสำคัญแรกของกระทรวงการต่างประเทศ แม้ว่าที่อิหร่านสถานเอกอัครราชทูตจะถูกปิด พื้นที่ใกล้เคียงก็ย้ายที่ทำการชั่วคราวไปเปิดในสถานที่ใกล้เคียงที่สุดเพื่อให้ได้ทำงาน ให้เกิดความรัดกุมและเสี่ยงน้อยที่สุด ยืนยันว่าจะอยู่จนกว่าคนไทยจะปลอดภัย 

 

โดยล่าสุดได้ส่งทีมไปช่วยเพิ่มเติม เพื่อดูแลคนไทยที่ต้องการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยมีประเทศใกล้เคียงกับประเทศอิสราเอลและอิหร่านที่อพยพคนไทยออก เช่น ตุรกี อาร์เมเนีย อาเซอร์ จอร์แดน เยเมน พร้อมระบุว่าสามารถเปิดเผยได้เพียงเท่านี้ เนื่องจากเป็นเรื่องของความปลอดภัย

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.