ไปรษณีย์ไทย เดินหน้าเพิ่มความปลอดภัย EMS ส่งด่วน เพิ่มฟีเจอร์ รับประกันในประเทศ สร้างความมั่นใจลูกค้า ส่งของมีค่าปลอดภัยทุกเส้นทางยิ่งขึ้น สำหรับการฝากส่งพัสดุที่มีมูลค่าสูง หรือสิ่งของสำคัญ โดยขยายวงเงินประกันคุ้มครองความเสียหาย สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท แนะนำ 5 วิธีการส่งพัสดุยุคใหม่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ได้แก่ เลือกกล่องหรือซองบรรจุให้เหมาะสม หุ้มห่อสิ่งของด้านในให้แน่นหนาระบุข้อมูลผู้ส่งและผู้รับให้ชัดเจน ติดตามพัสดุ 24 ชม. รวมถึงตรวจสอบเงื่อนไขการรับฝากและประเภทสิ่งของต้องห้ามก่อนส่ง
วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมการส่งพัสดุได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มองหาการขนส่งที่รวดเร็วเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และความคุ้มครองในการจัดส่งพัสดุมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการ EMS ส่งด่วนกลุ่มเครื่องประดับ อัญมณี เพชร ทองคำ เครื่องเงิน งานศิลปะ ของขวัญ ของสะสมรวมทั้งกลุ่มของที่มีคุณค่าทางจิตใจ สามารถเพิ่มฟีเจอร์คุ้มครองความปลอดภัย รับประกันในประเทศ ที่เป็นบริการเสริมช่วยให้ผู้ใช้บริการมั่นใจ ส่งของมีค่าปลอดภัยทุกเส้นทางยิ่งขึ้น เพราะสามารถรับการประกันและคุ้มครองพัสดุเพิ่มเติมโดยโซลูชันนี้ครอบคลุมทั้งกรณีของเสียหาย/ สูญหายหรืออาจประสบเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างขนส่ง เช่น สภาพอากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติ โดยพัสดุทุกชิ้นที่อยู่ในระบบรับประกันในประเทศ สามารถติดตามสถานะพัสดุได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบ Track and Trace จนกว่าจะถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย
นอกจากการคุ้มครองสิ่งของที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายแล้ว ยังมุ่งใช้โซลูชันดังกล่าว สร้างความน่าเชื่อถือให้กับภาคธุรกิจที่ใช้บริการส่งด่วน EMS ด้วยการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ และสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ e-Commerce ร้านค้าออนไลน์ รวมถึงธุรกิจสินค้า Luxury และสินค้าจำเพาะกลุ่ม สามารถนำจุดแข็งด้านการประกันความปลอดภัยนี้ไปใช้ในการเพิ่มคุณภาพการบริการ และสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การส่งพัสดุและสิ่งของเกิดความปลอดภัยอย่างครอบคลุม ไปรษณีย์ไทยมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการส่งพัสดุมาฝาก ดังนี้
· เลือกกล่องหรือซองบรรจุให้เหมาะสม – ควรเลือกใช้กล่องหรือซองที่มีขนาดและความแข็งแรง เหมาะสมกับลักษณะน้ำหนักของพัสดุ เพื่อป้องกันการยุบหรือฉีกขาดระหว่างกระบวนการขนส่ง
· หุ้มห่อสิ่งของด้านในให้แน่นหนา – ใช้วัสดุกันกระแทก เช่น พลาสติกกันกระแทกหรือโฟม เพื่อป้องกันความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกระหว่างการเคลื่อนย้ายจากการขนส่ง
· ระบุข้อมูลผู้ส่งและผู้รับอย่างชัดเจน – เขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง – ผู้รับให้ชัดเจนครบถ้วน ถูกต้อง และตรวจสอบก่อนจัดส่งทุกครั้ง เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
· ใช้ระบบติดตามพัสดุ– ติดตามสถานะพัสดุได้ทุกขั้นตอน เพื่อเพิ่มความมั่นใจ สามารถติดตามได้แบบเรียลไทม์
· ตรวจสอบเงื่อนไขการรับฝากและประเภทสิ่งของต้องห้ามก่อนส่ง – ผู้ใช้บริการควรศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขการรับฝากพัสดุเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าหรือการตีกลับของพัสดุ รวมถึงรายการสิ่งของต้องห้ามส่งทางไปรษณีย์
ผู้ใช้บริการที่สนใจสามารถเพิ่มฟีเจอร์ “รับประกันในประเทศ” เพื่อสร้างความมั่นใจ ส่งของมีค่าปลอดภัยทุกเส้นทางยิ่งขึ้นได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย และเครือข่ายกว่า 50,000 แห่งทั่วประเทศ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอน/วิธีการส่ง และการประกันพัสดุอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับลักษณะและมูลค่าสิ่งของที่จะฝากส่งอีกทั้งยังสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของบริการได้ทางเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทาง THP Contact Center 1545