“ศุภจี สุธรรมพันธุ์” CEO ดุสิตธานี เปิดแนวคิด “ภาวะผู้นำดูแลใจ” กลางเวที PRACHACHAT EXCLUSIVE FORUM 2025 แนะมองปัญหาอย่างมีระบบ แก้ด้วยกลยุทธ์ และเข้าใจคนในองค์กรคือพลังขับเคลื่อนสำคัญในยุคความไม่แน่นอน
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา “PRACHACHAT EXCLUSIVE FORUM 2025 คน…พลิกวิกฤต” ภายใต้หัวข้อ “ปัญหาที่นำไปสู่โอกาส” ว่า การนำพาองค์กรผ่านช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ผ่านการมองปัญหาอย่างมีระบบ การลงมือแก้ปัญหาอย่างมีกลยุทธ์ และการเป็นผู้นำที่สามารถ “ดูแลใจ” ของคนในองค์กรได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ นางศุภจีกล่าวต่อว่า “ปัญหาไม่ใช่ศัตรู แต่คือข้อมูล” ที่บอกให้เรารู้ว่ายังมีสิ่งที่ไม่เข้าใจ หรือยังไม่เคยจัดการ พร้อมชวนให้ผู้นำองค์กรทุกระดับ “มองด้วยสายตาแห่งปัญญา ไม่ใช่อารมณ์”
1. วิธีมองปัญหา : ต้องเริ่มจากการแยกแยะปัญหาให้ชัดเจนว่า อะไรคือสิ่งที่ “แก้ได้”, “แก้ไม่ได้” และ “ไม่ควรแก้” เพื่อลดภาระและไม่เสียทรัพยากรกับสิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์ พร้อมแนะนำให้ผู้นำพัฒนาทักษะการมองสถานการณ์เชิงลึก โดยไม่ให้ความรู้สึกมาบดบังการตัดสินใจ
2. วิธีแก้ปัญหา : เน้นการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าย่อย เพื่อให้ทีมงานรู้สึกว่าสามารถ “ทำได้จริง” ลดความเหนื่อยล้าทางใจ และเพิ่มพลังในการลงมือทำ พร้อมใช้หลักการจัดลำดับความสำคัญในการจัดการงาน
3. วิธีดูแลใจ : ถือเป็นหัวใจสำคัญของภาวะผู้นำในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อบุคลากรในองค์กรต้องเผชิญกับความเครียดหรือหมดกำลังใจ ผู้นำต้องเป็นผู้ “ชาร์จพลัง” ให้ทีม ผ่านการให้กำลังใจ การยกย่องผู้ทำดี และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับความคิดใหม่ ๆ
ขณะเดียวกัน นางศุภจียังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ “บริบทภายนอก” เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนในระดับนานาชาติ ควบคู่กับ “บริบทภายใน” ขององค์กร เช่น ทรัพยากร ความสามารถของบุคลากร และจุดแข็ง-จุดอ่อนภายใน เพื่อนำไปสู่การปรับตัวที่เหมาะสม พร้อมแนะให้ทุกองค์กร “กล้าทิ้งสิ่งที่ล้าสมัย” และเริ่มลงมือจาก “สิ่งเล็ก ๆ ที่ทำได้ทันที” เพื่อก้าวสู่เป้าหมายในระยะยาว
“ปัญหาคือเวทีพัฒนาปัญญา คนเก่งคือคนที่เปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาส” นางศุภจีกล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม นางศุภจีได้ฝากข้อคิด ถึงผู้นำรุ่นใหม่ว่า “การเป็นผู้นำไม่ใช่แค่เดินนำ แต่ต้องเดินไปด้วยใจ เข้าใจทีม และมีเป้าหมายร่วมกัน”
ทั้งนี้ การบรรยายในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้นำองค์กร นักธุรกิจ และผู้บริหารรุ่นใหม่จำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวในการพัฒนา “ภาวะผู้นำเชิงคุณภาพ” ที่ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่รวมถึงการดูแลคน สร้างวัฒนธรรม และเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคแห่งความไม่แน่นอน
