เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกมาระบุเหตุผลในการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องเข้าไปบริหารกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ว่า ถ้าพูดกันแบบนี้ ต้องเชิญมาคุยกันหน่อยแล้ว ว่า นโยบายไหนที่พรรคภูมิใจไทยไม่ตอบสนอง ขอยืนยันว่า ตอนกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย เราเดินหน้านโยบายทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายโดยตรง อย่างกรณีพนันออนไลน์ที่จะให้กระทรวงมหาดไทย ไปยกอำนาจข้ามกระทรวงให้หน่วยงานอื่น ซึ่งท้ายที่สุดสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็บอกชัดว่าทำไม่ได้ ซึ่งได้แจ้งเรื่องนี้แล้วว่าไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อเสนอ เพราะขัดกับข้อกฎหมาย แต่กลับกลายเป็นว่า เราถูกกล่าวหาว่าขัดนโยบาย ซึ่งไม่เป็นธรรม เพราะกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่หลากหลายกว่านั้น ทั้งการจัดระเบียบสังคม ปราบผู้มีอิทธิพล ควบคุมอาวุธปืน รวมถึงการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ผลงานของเรามีชัดเจน ใบอนุญาตอาวุธปืน วันนี้ก็จัดระเบียบได้ดีขึ้น สถานเริงรมย์ผิดกฎหมายหลายแห่งก็ถูกปิด บ่อนการพนันถูกปิด และยังสนับสนุนการจับยาเสพติด จนมีข่าวว่ากระทรวงมหาดไทยล้ำเส้น ซึ่งความจริงคือการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่การแย่งงานใคร นายอนุทินยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติต่างๆ ว่าตนลงไปถึงที่ทุกครั้ง ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และการพัฒนาหลุมหลบภัยให้ใช้งานได้จริง ก็เกิดจากการที่ไปทดลองใช้แล้วพบปัญหา จึงผลักดันให้มีการปรับปรุงทันที

"กระทรวงมหาดไทยอยู่ในลิสต์ที่ประชาชนอยากให้ปรับหรือไม่ ไม่ใช่นะ โพลบอกชัดว่ากระทรวงที่ประชาชนอยากให้ปรับ คือกระทรวงกลาโหมมากกว่า" นายอนุทิน กล่าง

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ต่อนโยบายกาสิโน นายอนุทิน กล่าวว่า กาสิโนเป็นชนวนหนึ่งที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องหลุดจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะยังมีบางเรื่องที่เรายังติดใจ ถามว่า กาสิโนจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นจริงหรือ แล้วผลประโยชน์มันตกกับใคร คนในประเทศจะได้อะไร การตั้งกาสิโนมันไม่ได้กระจายรายได้ แต่มันดึงเงินเข้ากลุ่มทุน ไม่กี่กลุ่ม และตามมาด้วยปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัว และอื่นๆ ประเทศไทย เรามีจุดขายมากมาย ที่ควรจะมาก่อนกาสิโน เรื่องนี้แม้แต่พรรคร่วมบางพรรคยังไม่กล้าสนับสนุน แล้วถ้าเขาจะดันต่อ ตนก็โชคดีที่ออกมาแล้ว ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่