เวทีแลกเปลี่ยนความร่วมมือนาฏศิลป์ ไทย-จีน ในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน หลากสีสัน สวยงามตระการด้วยการแสดงงิ้วของประเทศจีน การแสดงโขนไทย การขับร้องเพลงไทย บนเวทีใหญ่ของโรงละครวังหน้า สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ตลอดจนนิทรรศการย้อนรอยสัปดาห์ละครจีน-อาเซียน (หนานหนิง) ที่จีนโชว์ศิลปะการทำเครื่องปั้นดินเผาเมืองหนานหนิง การทอผ้าไหมทอดิ้นวัฒนธรรมโดดเด่นหนานหนิงของกลุ่มชาติพันธุ์จ้วง งานปัศิลปะการตัดกระดาษหนานหนิง หรือแม้แต่การวาดหน้ากากงิ้ว สะท้อนวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน ส่งเสริมความเข้าใจวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน เพิ่มความผูกพันของสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นางนิภา โสภาสัมฤทธิ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์ไทย-จีน กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) ร่วมกับ สถาบันวัฒนธรรมและศิลปะหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดโครงการแลกเปลี่ยนความร่วมมือนาฏศิลป์ ไทย-จีน สุดยิ่งใหญ่ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือในด้านการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในมิติต่างๆ เรามีความสัมพันธ์กันมายาวนานจัดงานด้านศิลปวัฒนธรรมมา 12 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกคณะจากเมืองหนานหนิงเดินทางมาแลกเปลี่ยนที่ไทย ทั้งสองสถาบันมีข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันด้านการศึกษา มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้งมหาวิทยาลัยยูนนาน มหาวิทยาลัยซานซี เข้ามาศึกษาต่อในระดับมหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิต รวมถึงมีนักศึกษาจีนเข้ามาศึกษาในหลักสูตรศิลปดุษฎีบัณฑิต ทั้งในสาขาวิชาดุริยางคศิลป์และนาฏศิลป์รวม 20 คนและในหลักสูตรศิลปมหาบัณฑิตทั้ง 2 สาขา อีก 45 คน
อธิการบดี สบศ. กล่าวต่อว่า ด้าน สบศ. วางแนวทางในการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาทั้งครูอาจารย์และนักศึกษาเข้าไปศึกษาแลกเปลี่ยนที่จีน จะต้องเตรียมความพร้อมด้วยการเปิดหลักสูตรการศึกษาภาษาจีนให้กับบุคลากรของ สบศ. เร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันมีการแลกเปลี่ยนการแสดงศิลปวัฒนธรรมสองประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยนำการแสดงโขน โนรา และสงกรานต์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกไปโชว์ที่หนานหนิงและเมืองต่างๆ ของจีนได้รับความสนใจมาก โดยเฉพาะการแสดงโขนไทยได้ปรับให้มีการแนะนำตัวละครและบทพากษ์ภาษาจีนให้แก่ผู้ชม เพิ่มความเข้าใจเรื่องราวที่จัดแสดงง่ายขึ้น พร้อมทั้งจะประยุกต์กระบวนท่ารำของจีนนำมาใช้กับการแสดงของไทยด้วย มีแผนจะส่งนักศึกษาที่แสดงเป็นตัวละครลิงไปฝึกท่ากายกรรมและตีลังกากับคณะนักแสดงจีน นำความรู้มาต่อยอดด้านศิลปวัฒนธรรมให้งอกงาม
ด้าน ฟาง หนิง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติเมืองหนานหนิง กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองสถาบันผ่านการจัดงานด้านศิลปวัฒนธรรมเกิดขึ้นครั้งแรกปี 2556 และต่อเนื่องจนปัจจุบัน สบศ. เข้าร่วมงานสัปดาหละครจีน-อาเซียนที่หนานหนิงทุกครั้ง เป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้ง จริงใจ เกื้อกูลกัน เป็นเพื่อนบ้านที่ดี ในสัปดาห์ละครจีน-อาเซียน 12 ปีที่ผ่านมา ไทยนำมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้อย่างโขนไทยมาแสดงบนเวที รวมถึงการแสดงละครชาตรี ทางจีนแสดงงิ้ว นิทรรศการงิ้ว รวมถึงการเสวนาทางวิชาการ ทุกปีมีผู้ร่วมงานหลักแสนคน ส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมอาเซียน อวดโฉมศิลปะที่มีหลากหลายแขนง
“ สถาบันฯ ให้ความสำคัญกับการขยายความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ท่องเที่ยว การศึกษากับไทย โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมมุ่งเน้นส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมรายการที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จีนมีงิ้วจากคุณหมิงทางตอนใต้ งิ้วกวางตุ้ง ส่วนไทยมีโขน จะส่งเสริมความเข้าใจวัฒนธรรมรู้ซึ่งกันและกัน ก่อนหน้านี้ มีการแลกเปลี่ยนอาจารย์จากวิทยาลัยศิลปะยูนนาน นักวิจัย และนักศึกษาจีนมาศึกษาที่ สบศ. ซึ่งจะนำความรู้ และสร้างงานวิจัยไปพัฒนาศิลปการแสดงในอาเซียน นอกจากนี้ จีนกำลังจัดทำหนังสือเกี่ยวกับนาฏศิลป์ละครไทยและศิลปะการละครร่วมสมัยในภาษาจีน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน “ ฟาง หนิง เน้นย้ำมิตรภาพไทย-จีนเพิ่มพูนและเป็นหนึ่งเดียว