ได้ฤกษ์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
สำหรับ “วอนซานคัลมา” สถานตากอากาศ หรือรีสอร์ท ชายหาดทะเล ริมอ่าวเกาหลีตะวันออก ในเมืองวอนซาน จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีเหนือ
และก็ต้องบอกว่า เป็นเหตุการณ์ที่ได้ฤกษ์ เป็นดิถีศุภมงคล หรือสิริมงคล อันอย่างยิ่งใหญ่ของประเทศกันจริงๆ มิใช่เพียงจั่วหัวกันลอยๆ แต่เป็น “สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ” ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง ทางการเกาหลีเหนือ รายงานกันอย่างนี้จริงๆ ว่า “Great, auspicious event of the whole country” กันเลยทีเดียว สำหรับ การปรากฏโฉมของรีสอร์ท “วอนซานคัลมา” ที่ “นายคิม จอง-อึน” ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพิ่ง “ตัดริบบิ้น” ทำพิธีเปิดสถานตากอากาศแห่งนี้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในพิธีเปิดดังกล่าว นายคิม จอง-อึน ผุ้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ก็ควง “คิม จู-เอ” บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวน มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
โดยทางการเกาหลีเหนือ ภายใต้การนำของนายคิม จอง-อึน หมายมั่นปั้นมือว่า จะให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ พร้อมกับตั้งความหวังว่า รีสอร์ทแห่งนี้ จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยการเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัญจรพักค้าง อันจะนำมาซึ่งเม็ดเงินรายได้ของประเทศอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป
เบื้องต้นก็จะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในประเทศ คือ ประชาชนชาวเกาหลีเหนือเอง เป็นปฐมก่อน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังไม่มีกำหนดการออกมา
อย่างไรก็ดี เมื่อกล่าวถึงการเปิดให้บริการด้านการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของรีสอร์ทดังกล่าว ก็ต้องบอกว่า ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่ทางการเกาหลีเหนือวางเอาไว้ถึง 6 ปีด้วยกัน กว่าจะสร้างแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากใวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งเล่นงานภาคส่วนต่างๆ จนได้รับผลกระทบไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งเกาหลีเหนือ ประเทศที่ได้รับฉายาว่า ฤาษีหรือนักพรตแห่งเอเชียบูรพา อันหมายถึงประเทศที่เดี่ยวโดดตนเองจากโลกภายนอก ก็ยังถูกวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 คุกคาม จนส่งผลให้โครงการต่างๆ ต้องชะงักงัน เหมือนที่หลายๆประเทศทั่วไปประสบ
บรรดานักวิเคราะห์แสดงทรรศนะว่า การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เริ่มปรากฏเค้าลาง มาตั้งแต่ที่นายคิม จอง-อึน ได้มีแผนพัฒนาปรับปรุง “สนามบินคัลมา” เมืองวอนซาน ให้เป็น “ท่าอากาศยานนานาชาติ” ที่สามารถใช้ได้พลเรือนและทหาร ซึ่งเริ่มแผนพัฒนาปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2013 (พ.ศ. 2556) แล้ว พร้อมกับทุ่มงบประมาณเพื่อการเดินหน้าแผนพัฒนาและปรับปรุงดังกล่าว จำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เมื่อมีท่าอากาศยานนานชาติดังกล่าว ที่สามารถให้บริการด้านการสัญจร แก่พลเรือนได้ ก็จะส่งผลดีต่อการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองนั้นๆ ตามมา
หลังจากนั้น นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ก็พัฒนาพื้นที่ริมหาดของเมืองวอนซานกันอย่างขนานใหญ่ ให้เป็นรีสอร์ทวอนซานคัลมา
โดยเมื่อพูดถึงเมืองแห่งนี้แล้ว ก็มีความสำคัญต่อเกาหลีเหนือหลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่นายคิม จอง-อึน เติบโตมากับเมืองวอนซานแห่งนี้ และการเป็นเมืองที่ถูกใช้เป็นสถานที่ทดสอบประสิทธิภาพสมรรถนะของขีปนาวุธรุ่นต่างๆ ที่เกาหลีเหนือทดลองเป็นประจำ เมื่อไม่ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ทดสอบขีปนาวุธแล้ว ก็ได้กลายเป็นถิ่นพำนักอาศัยอันหรูหราของกลุ่มชนชั้นสูงของเกาหลีเหนือในเวลาต่อมา
มีรายงานว่า บรรดากลุ่มชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ ถิ่นโสมแดง มีวิลล่าส่วนตัวอันสุดหรู ในพื้นที่ดังกล่าวกันเลยทีเดียว ท่ามกลางของสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ ตามที่หลายองค์กร เช่น ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ประเทศเกาหลีเหนือแห่งนี้ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศยากจน
ตามแผนพัฒนารีสอร์ทวอนซานคัลมาแห่งนี้ ก็ครอบคลุมพื่นที่ชายหาดยาวไปตลอดแนว 4 กิโลเมตร
ในพื้นที่รีสอร์ท ก็จะประกอบด้วยโรงแรม ที่พักต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงสวนน้ำ โดยทางสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง ทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาหาความสำราญ พักผ่อนหย่อนใจในสถานที่แห่งนี้ได้ถึง 2,000 คน
เมื่อรีสอร์ทวอนซานคัลมาแห่งนี้แล้วเสร็จ ก็คาดหมายกันว่า จะส่งผลให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเกาหลีเหนือ พร้อมกับเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวในถิ่นโสมแดงจากเดิมที่ผ่านมา ที่มักจะเป็นสถานที่ที่เป็นอนุสรณ์สถาน สถานที่มีความสำคัญทางการทหารเกี่ยวพันเรื่องการสงครามกับเกาหลีใต้ เช่น เขตปลอดทหารหมู่บ้านปันมุนจอม เป็นต้น ตลอดจนสถานที่ที่เกี่ยวข้องตระกูลคิม ที่ปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 1948 (พ.ศ. 2491) เป็นส่วนใหญ่