บิ๊กเต่า ลุยเอง ! ทลายข้าราชการเทา ทุจริตแอบกินหัวคิวแรงงาน งานนี้ปลัดอำเภอทำซะเอง เรียกรับค่าธรรมเนียมบัตรชมพูได้ไปเกือบ 3 ล้าน ก่อนสิ้นท่า ป.ป.ป.
คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นถึงระดับรองหัวหน้างาน ใหญ่น้อยกว่าแค่ระดับ “นายอำเภอเท่านั้น” ทราบชื่อ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียน ภาค 5 สาขา จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าตัวถูก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยทีมชุดจับกุมบุกไปรวบตัวพร้อมกับแจ้งข้อหาให้รับทราบถึงภายในสำนักงานอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่
หลังก่อนหน้านี้ นายบุญญฤทธิ์ได้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 5 ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
ระหว่างจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดสบืบสวนยังเปิดคลิปหลักฐานที่ทางตำรวจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ “ป.ป.ป.” รับเรื่องร้องเรียนจากนายหน้าแรงงานที่เชียงใหม่ โดยสาเหตุที่เรื่องมาแดงเอาตอนบรรดานายหน้าช่วยกันพาลูกจ้างแรงงานต่างด้าวไปทำบัตรประจำตัว แต่สุดท้ายนอกจากไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานตามเรตราคาที่ต้องจ่ายแล้ว ปรากฎพวกเขาเหล่านี้ยังต้องมาตกเป็นหนึ่งในเหยื่อกว่า 100 รายของปลัด อ.สันทรายจอมแสบ
สำหรับ บัตรประจำตัวผู้ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “บัตรชมพู” เป็นเอกสารที่ออกโดยกรมการปกครอง เพื่อใช้แสดงตนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง โดยส่วนใหญ่แล้ว บัตรชมพูจะออกให้กับแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งบัตรนี้จะใช้ควบคู่กับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เสมอ
จากรายงานตอนเช้าของข่าวเช้าหัวเขียวของไทยรัฐ ปกติค่าธรรมเนียมทำบัตรชมพูอยู่ที่ 60 บาท มีค่าบริการการคัดสำเนาอีก 20 บ. แต่สิ่งที่งามหน้า คือ พ่อปลัดตัวแสบเรียกเก็บในเรต 200 บ.ต่อหัว เก็บกินส่วนต่างมูลค่า 120 บ.
ความอำมหิตผ่านระบบสีกากีแกมเทาที่มีเป็นส่วนน้อยยังโหดร้ายกับแรงงานกลุ่มนี้ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยจากการยืนยันหลังการจับกุมตัว พยานผู้เสยหายยืนกรานเสียงชัดว่า กรณีนี้ถ้านายหน้าคนไหนไม่จ่าย “ก็จะไม่ได้คิวนัดวันมาทำบัตร หรือได้เป็นคิวท้าย ๆ จนบรรดานายจ้างต้องตัดใจยอมจ่ายเงินโกงดังกล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมยังพบด้วยว่า นายบุญญฤทธิ์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 66 มีรายได้จากการทุจริตตามที่ถูกกล่าวหาและตรวจสอบในเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท บางรายหนักถึงขั้นถูกกลั่นแกล้งกล่าวหาว่าใช้เอกสารปลอม จึงจำยอมต้องยอมจ่ายเงินค่าหัวคิวตามข้อเรียกร้องของนายบุญญฤทธิ์ โดยในแต่ละวันจะมีแรงงานต่างด้าวยื่นขอขึ้นทะเบียนที่สาขาดังกล่าว ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย คิดเป็นเงินค่าหัวคิววันละ 200,000 บ.
ขอบคุณคลิป : ข่าวเช้าหัวเขียว @thairathnews.
อ่านข่าวเพิ่มเติม