น.ส.ณัฐริยา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานกรรมการจัดการแข่งขัน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ปรึกษาฝ่ายจัดการแข่งขัน ร่วมสังเกตการณ์ และ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยวาระสำคัญ คือหารือแนวทางการดำเนินงานและการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22 ส.ค.- 7 ก.ย. 2568 โดยมี 32 ทีมเข้าร่วมในการแข่งขันทั้งหมด 64 แมทช์ แข่งใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และ นครราชสีมา ซึ่งสถานที่จัดการแข่งขันสนามต่างๆมีความพร้อมแล้ว ส่วนของงบประมาณทั้งหมดประมาณ 1,124 ล้านบาท ได้แก่ค่าลิขสิทธิ์ของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินจากรัฐบาล และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวน 650 ล้านบาท ส่วนที่เหลือสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จะรับผิดชอบในการจัดหามาสมทบเพิ่มเติม จำนวน 474 ล้านบาท
ภายหลังการประชุม นายสรวงศ์ กล่าวว่าได้รับฟังความคืบหน้าถือว่าน่าพอใจ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ส่วนเรื่องงบประมาณ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีทั้งงบจากภาครัฐ ที่อนุมัติเรียบร้อย และบางส่วนจากภาคเอกชน ซึ่งจะมีเรื่องภาษี และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็จะรับหน้าที่ไปหารือกับกระทรวงการคลังว่าส่วนไหนที่จะสามารถลดหย่อน หรือของดเว้นได้ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องการเดินทาง ความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ทีมจากชาติต่างๆ เพราะเป็นชื่อเสียงประเทศ
จริงๆแล้วการสนับสนุนกีฬาก็จะมีเรื่องของสิทธิประโยชน์เข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ทางกระทรวงการคลังก็รับโจทย์ไปทำการบ้านแล้ว พอมีเรื่องของสิทธิประโยชน์เข้ามา ภาคเอกชนไม่สามารถเอาตัวนี้ไปขอลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้ (ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้) ซึ่งส่วนนี้เราคงต้องคุยกันเป็นรายๆ ว่าถ้าประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ส่วนไหนที่จะขอลดหย่อนได้ หรือว่าอาจจะขอให้มีทั้งสิทธิประโยชน์ด้วย และขอลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้ด้วย คิดว่าภาคเอกชนก็น่าจะมีส่วนในการที่จะเข้ามาสนับสนุนกีฬามากขึ้น
ขณะที่ นายสมพร กล่าวว่า สมาคมขอขอบคุณทางนายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรีฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และรัฐมนตรีสรวงศ์ เทียนทอง ที่ได้ประสานงานเรื่องงบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนทั้งงบกลาง และงบกองทุนฯ ส่วนงบที่สมาคมรับผิดชอบคืองบจากเอกชนราว 474 ล้านบาท ขณะนี้เราหามาได้ราว 150 ล้านบาท (จากการขายบัตรเข้าชม 50 ล้านบาท, ไทยเบฟเวอเรจ 50 ล้านบาท, พีพีทีวี 4 ล้านบาท, เอไอเอส 8 ล้านบาท, ยูโร่เค้ก 10 ล้านบาท และส่วนอื่นๆ) ขาดอีกราว 300 ล้านบาทที่สมาคมจะต้องหามาเพิ่มเติม ก็ได้ประสานกับทางภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ คิดว่าไม่น่าจะเกินเหลือบ่ากว่าแรง
ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นชาติ พร้อมที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ จะทุ่มเทให้กับการจัดการแข่งขันครั้งนี้อย่างเต็มที่ เชื่อมั่นว่าเหลือเวลาอีกราวเดือนเศษจะมีผู้เข้ามาร่วมสร้างความภาคภูมิใจในการสร้างประวัติศาสตร์จัดรายการใหญ่ระดับโลกครั้งนี้ หากภาคส่วนใดสนใจสนับสนุนก็ติดต่อมาได้ที่สมาคม ส่วนการที่ท่านรัฐมนตรีสรวงศ์ จะช่วยผู้สนับสนุนเรื่องการยกเว้นภาษีนั้น เชื่อว่าจะมีภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนเพิ่ม ซึ่งเรื่องภาษีส่วนหนึ่งก็ย้อนกลับไปที่รัฐบาลถึงกว่า 100 ล้าน ก็จะทำให้ภาระของสมาคมลดน้อยลงไปด้วย
สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก เป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยถือว่าเป็นกีฬาประเภททีมที่เป็นที่นิยมของคนไทยและทั่วโลก การจัดการแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะเป็นการให้โอกาสกับคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจกีฬาวอลเลย์บอลได้ชมฝีมือของนักกีฬาระดับโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ คาดว่าประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาชมการแข่งขัน มูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียไปทั่วโลก คาดว่าจะมีผู้ชมโดยรวมประมาณ 1.3 พันล้านคน ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 8.5 พันล้านบาท รวมทั้งยังเป็นการแสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย