มึนประกันสังคม ประมูลระบบปลอดภัยแอพพ์ สเปกสูงเกินจริง ขู่ฟ้อง157 คนเปิดทีโออาร์
วันที่ 2 กรกฎาคม นายธีระชาติ ก่อตระกูล อนุกรรมการพิจารณาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทีมประกันสังคมก้าวหน้า โพสต์ระบุ หลังการประชุมร่วมของอนุไอทีและอนุงบของบอร์ดประกันสังคม โดยมีรายละเอียดว่า
วันนี้ (1 ก.ค.) มีการประชุม 3 โครงการ ด้านความปลอดภัย ที่มีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่น่าสนใจคือ Web Application Firewall (WAF) มีข้อสังเกต ดังนี้
1) ก่อนหน้านี้หลายคนคงไม่ทราบว่า ประกันสังคมได้ซื้อ Web Application Firewall ในสัดส่วนงบที่สูงมาก ซึ่งหากใครทำงานด้านไอทีต้องสงสัยแน่นอนว่าเหตุใดถึงจำเป็นต้องซื้อสเปคที่มีขนาดใหญ่มากเกินความจำเป็น เอาง่ายๆว่ารองรับให้ได้ถึง 72,000,000 Concurrent Session พูดง่ายๆตัวเลขเยอะกว่าคนไทยทั้งประเทศ ผมขอข้อมูลว่าค่าเฉลี่ยเปิดหน้าเว็บต่อวันอยู่ที่เท่าไร เพื่อจะเทียบว่าคุ้มค่าไหม แต่ไม่เคยได้คำตอบ ไม่เคยได้รับข้อมูลในฐานะอนุไอทีเลย โชคดีว่าบอร์ดใหญ่น่าจะเห็นความผิดปกติเลยส่งเรื่องวนกลับมา
2) ในที่สุดวันนี้ก็ได้ความจริงคือ จริงๆแล้วสถิติปัจจุบัน ตัวเลขที่แท้จริงอยู่เพียง 5,300 CPS (Connection Per Second) ซึ่งห่างมากๆกับของที่จ่ายเงินไปซึ่งรองรับมากถึง 72,000,000 Concurrent Session และจะมีการจัดซื้อ appliance ถึง 8 ตัว ในขณะที่เทรนด์หลักของโลกไปทางคลาวด์ รวมถึงจะขัดนโยบายของรัฐบาลเรื่อง Cloud First เองด้วย
3) นอกจากนั้นตอนจะจ่ายเงินซื้อ ยังคำนวณโดยใช้สมมติฐานว่าผู้ใช้จะเติบโต ปีละ 25% ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ในขณะที่เป็นที่รู้กันดีว่าวัยทำงานในประเทศนี้แนวโน้มมีแต่ที่จะลดลง
4) ข้อมูลอีกอย่างที่น่าตกใจคือการเปิดเว็บประกันสังคมของคนเดียว จะเปิดถึงกว่า 280 session ในเวบหน้าแรกหน้าเดียว คือเปิดหน้าแรกก็เรียกไปซะ 280 อย่าง ซึ่งพอเปิดเยอะขนาดนี้ ก็เลยต้องซื้ออุปกรณ์ใหญ่ขึ้น ซึ่งจริงๆน่าจะแพงกว่าทำเว็บใหม่ให้มันดีกว่านี้ด้วยซ้ำ
5) นี่ยังไม่นับการสอบราคากลาง ดันไปสอบราคาจากบริษัทที่ขายอาวุธยุทโธปกรณ์แทนที่จะเป็นบริษัทไอที ทุกเจ้าที่เสนอราคาเข้ามาใกล้เคียงกันหมดแต่ไม่มีการลงรายละเอียดราคารายชิ้นเลย แต่เน้นใส่ราคามาแบบเหมาๆ ทำให้พบว่า โครงการนี้มีข้อน่าสงสัยมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบให้สิ้นสงสัย บวกกับความเดิมเรื่อง Web App 850 ล้านที่ยังไม่เสร็จ
ล่าสุดก็ยังไม่มีการปรับ และทีมไม่รู้เรื่องการซับงานต่อของผู้ได้งาน ทั้งๆที่ ไอซ์ รักชนก พูดออกรายการสรยุทธ์จนคนรู้กันไปท้ังประเทศแล้ว ทุกอย่างทำให้เกิดทำให้ผมงงไปหมด ว่าคนในสำนักงานประกันสังคม ตัดสินใจบนพื้นฐานของอะไรกันแน่
6) ทีมประกันสังคมก้าวหน้าได้ตั้งข้อสังเกตรวมถึงคัดค้านอย่างเต็มที่ แต่เหมือนพูดกับกำแพง ตัวแทนฝั่งนายจ้างและข้าราชการเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย และยังยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและถูกต้องตามระเบียบกฏหมายทุกประการ และยืนยันจะตัดสินใจทุกอย่างเหมือนเดิม
7) ที่เลวร้ายที่สุด คือการขู่ฟ้องมาตรา 157 ในกรณีที่ใครก็ตามเปิดเผยร่าง TOR ออกสู่สาธารณะ ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น การตัดสินใจเรื่องต่างๆในประกันสังคมอยู่ในหลุมดำมืด ไม่มีแสงส่อง หากเป็นแบบนี้ต่อไปคงยากที่โครงการต่างๆจะมีประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพฐานะกองทุนประกันสังคมที่มีความเสี่ยงล้มละลายสูงเช่นนี้
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คงจะเป็นการชวนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาช่วยกันตรวจสอบ ส่งข้อมูลร่าง TOR ชุดนี้ให้ผู้เชี่ยวชาญลองวิเคราะห์ หรือจะดีมากถ้ามีบริษัทต่างๆลองเสนอราคาตาม ร่าง TOR นี้เข้ามาเพิ่มเพื่อให้รู้ชัดว่าโครงการนี้อาจมีปัญหาจริงหรือไม่
สุดท้ายต้องเรียนตามตรงว่า สัดส่วนผู้ประกันตนที่เข้ามาได้ 6 จาก 21 เสียง ยังไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงแบบผ่าตัดใหญ่ในสำนักงานประกันสังคมจริงๆและหากยังไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ผมคิดว่ากองทุนมีแนวโน้มจะเจ๊งจริงๆอย่างที่งานวิจัยบอก แต่ผมและเพื่อนทีมประกันสังคมก้าวหน้าขอยืนยันว่าปัจจุบันพวกเราทุกคนทำอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้กองทุนประกันสังคมก้าวไปข้างหน้า
พวกเราพยายามเริ่มเปลี่ยนอะไรได้บางอย่าง อย่างน้อยทีละก้าวมาตลอด และจะทำต่อไปอย่างสุดกำลัง ผมไม่รู้ว่าจะสามารถคาดหวังอะไรกับรัฐมนตรีคนใหม่ได้หรือไม่ แต่ก็พยายามมองโลกในแง่ดี เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ผมคิดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาหลายๆอย่างได้ คือ การถ่ายทอดสดการประชุมให้สาธารณะได้รับรู้ว่าในห้องประชุมคุยอะไรกันบ้าง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ เปิดเผยรายงานการประชุม รวมถึงเปิดเผยมติที่ประชุมว่าใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นอย่างไร ให้คนเหล่านี้ความรับผิดรับชอบต่อการตัดสินใจการจัดซื้อจัดจ้างที่จะเกิดขึ้น