โยนวิปรัฐบาลชี้ชะตา 'ถอน' - 'เลื่อน' ร่าง พ.ร.บ. entertainment complex
GH News July 04, 2025 01:16 PM

‘จุลพันธ์’ โยนวิปรัฐบาลชี้ชะตา ‘ไปต่อ’ หรือ ‘พอแค่นี้’ ร่าง พ.ร.บ. entertainment complex มั่นใจพรรคร่วมเข้าใจเจตนาของรัฐบาลดี ไม่กังวลเสียงปริ่มน้ำ มองให้เวลา ครม. ใหม่พิจารณากฎหมายด้วยตัวเอง และเพื่อลดโทนความขัดแย้งในสังคม พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 โตไม่ต่ำกว่า 2% ฟุ้งรัฐบาลเดินเครื่องออกมาตรการกระตุ้นไม่พัก ประคองเศรษฐกิจต่อเนื่อง

4 ก.ค. 2568 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร (entertainment complex) ว่า ในวันที่ 7 ก.ค. นี้จะมีการหารือร่วมในวิปรัฐบาล เพื่อหาความชัดเจนว่าจะมีการเลื่อน หรือถอน ร่างกฎหมายดังกล่าว โดยจะต้องได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 9 ก.ค. 2568

ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นห่วงเรื่องเสียงปริ่มน้ำ แต่ในอีกมิติรัฐบาลมองว่า ขณะนี้มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ราว 14-15 คน มองว่าทุกคนควรมีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ เพราะก่อนหน้านี้ครม. ที่อนุมัติกฎหมาย entertainment complex เพื่อเสนอเข้าสู่สภาฯ นั้น เป็นการอนุมัติโดย ครม.ที่เป็นองค์ประกอบเก่า ดังนั้นเมื่อมีการปรับเปลี่ยน ครม. ครั้งใหญ่ ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่กฎหมายที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและสำคัญนี้จะต้องนำมาพุดคุยเพื่อให้ตกผลึกกันอีกครั้ง

นอกจากนี้ ต้องยอมรับความจริงว่า ขณะนี้มีเหตุการณ์ขัดแย้งกันในสังคม มีความเห็นต่างเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลต้องการจะลดโทนของสังคมในประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันนี้ลงมาก่อน เพราะเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นตัวหนึ่งในการฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการหยุดเรื่องความขัดแย้งเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นไปได้จริงก็อาจจะเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ดังนั้น จึงมีการหารือกันในเบื้องต้นว่า จะมีการเลื่อน หรือถอนร่างกฎหมายดังกล่าวก่อน เพื่อดึงกลับมาพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง

“การจะเลื่อน หรือ ถอน จะต้องหารือกันในวิปรัฐบาล โดยหากถอน ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ ครม. ที่จะส่งมติและแจ้งความประสงค์ในการถอนร่างกฎหมายให้สภาฯ แต่ถ้าสรุปแล้วว่าจะเลื่อน ก็เป็นเรื่องที่สภาฯ จะสามารถวินิจฉัยและสมาชิกเป็นผู้เสนอว่าเลื่อนได้ ซึ่งคำว่าเลื่อนนี้ หมายถึงดึงกลับมาก่อน แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจึงนำมาพิจารณาอีกครั้ง ส่วนข้อสรุปจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปหารือกัน ข้อสรุปจะเป็นอย่างไรก็ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลมั่นใจในเสียงของเรา หากเสียงไม่เกินครึ่งหนึ่งเราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่ท้ายที่สุดปากเกิดอุบัติเหตุแล้วเสียงไม่พอ ก็ต้องว่ากันไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญ แต่เราเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจว่ารัฐบาลต้องการที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ” นายจุลพันธ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังยืนยันชัดเจนว่า entertainment complex เป็นแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนภาคการท่องเที่ยว ต้องการดึงเม็ดเงินขนาดใหญ่ระดับแสนล้านบาทเข้ามาในประเทศ ต้องการให้ตรงนี้เป็นจุดเปลี่ยนของภาคการท่องเที่ยวในการดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนจำนวนมากที่แสดงความสนใจและพ้อมที่จะเข้ามาลงทุน

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 2% โดยยืนยันว่ายังคงเดินหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจะไม่หยุดแค่นี้ ซึ่งมองว่าดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย เพราะหากไม่ทำอะไรเลย เศรษฐกิจไทยอาจจะเติบโตได้ต่ำกว่า 1% ไปแล้ว

“เวลารัฐบาลตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจ ก็อยากมองให้ไกล หากเดินไปได้ถึง 3% ก็แฮปปี้ ดังนั้นการตั้งเป้าจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายเพื่อให้เราสามารถเดินไปได้ไกลที่สุด แต่เมื่อมีเหตุขัดแย้งกันในหลายพื้นที่ทั่วโลก มีเรื่องภาษีสหรัฐฯ เข้ามา การเติบโตก็เป็นไปได้ยาก แต่ตอนนี้ก็ตั้งเป้า คาดหวังว่าปีนี้เราจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 2% ตรงนี้คือสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ และเมื่อมีเหตุปัจจัยภายนอกที่เกินการควบคุมเข้ามา สุดท้ายก็คงปฏิเสธผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่ได้” รมช.การคลัง ระบุ

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.