พ่อแม่แทบช็อก ลูกสาว 2 ขวบ กินเยลลี่ผสมกัญชา เบลอหนักฟุบหลับจนปลุกไม่ตื่น หามส่ง รพ.ด่วน หาที่มาจนรู้ว่าหนุ่มดาวโอนลี่แฟน เพื่อนสนิทของลุง มาร่วมงานวันเกิด ก่อนที่จะลืมเยลลี่กัญชาในบ้าน ซ้ำไม่รับผิดชอบ ต้องเสียค่ารักษา 6 หมื่นบาท วอน รัฐบาล แก้ปัญหาจริงจัง
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อแม่เด็กวัย 2 ขวบ 6 เดือน โพสต์ลงโซเชียลเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หลังลูกสาววัย 2 ขวบ 6 เดือนเผลอกินเยลลี่ผสมกัญชา จนเกิดอาการเบลอ ตาปรือ และง่วงซึม ก่อนฟุบหลับในห้องเรียนปลุกไม่ตื่น ครูต้องโทรแจ้งผู้ปกครอง ลุงของเด็กจึงไปรับหลานสาวที่โรงเรียนและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนใน จ.เชียงใหม่ ทันที แพทย์ตรวจร่างกายเบื้องต้นไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายลุงตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีใครนำขนม หรืออาหารที่ผสมสารเสพติดมาให้หลานสาวกินหรือไม่ จึงสอบถามเพื่อนในกลุ่มที่มากินเลี้ยงวันเกิดที่บ้านเมื่อคืนวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา
หลังสอบถามเพื่อนในกลุ่มที่มาร่วมงานวันเกิดทุกคน ปรากฏว่ามีเพื่อนชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นดาวโอนลี่แฟน และเดินทางมาจาก จ.ลำปาง เพื่อมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ยอมรับกับลุงของเด็กว่า ได้นำเยลลี่กัญชามาที่งานเลี้ยง และลืมทิ้งไว้ในบ้าน ไม่ได้นำกลับไปด้วย เมื่อหลานสาววัย 2 ขวบครึ่งมาพบจึงนำไปกินกว่า 10 เม็ด เพราะลักษณะเยลลี่เป็นรูปหมีหลากหลายสีสัน ขณะที่ยายของเด็กก็กินไป 2 เม็ด จนเกิดอาการเบลอและง่วงซึมแต่อาการไม่รุนแรง
นายเอ็ม พ่อของน้องเอ เด็กหญิงวัย 2 ขวบ 6 เดือน เปิดเผยว่า หลังแอดมิตอยู่ 2 คืน แพทย์ก็อนุญาตให้พาลูกสาวกลับบ้านได้เมื่อวานนี้ (4 กรกฎาคม) แต่ช่วงค่ำวันเดียวกันต้องพาลูกสาวกลับมาโรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะไข้ขึ้นสูงและหูแว่วตลอดเวลา แพทย์จึงได้เจาะเลือดไปตรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้อาการของลูกเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังมีไข้ต่ำๆ อยู่ และบอกว่าหูแว่วเหมือนได้ยินเสียงอยู่ตลอดเวลา
นายเอ็มบอกว่า ที่นำเรื่องราวครั้งนี้โพสต์ลงโซเชียลเพราะอยากเตือนภัย และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองระมัดระวัง รวมทั้งฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบและเข้มงวดกับการนำกัญชามาผสมในอาหาร หรือขนม เพราะที่ผ่านมามีการนำกัญชามาใช้ผิดวัตถุประสงค์เยอะมาก ทั้งมาผสมในอาหาร หรือขนมต่างๆ เด็กเล็กๆ หรือบางคนที่ไม่รู้ เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวไม่มีฉลากกำกับ หรือมีแต่ฉลากภาษาอังกฤษ ซึ่งลูกสาวของตนเองก็เล็กมากยังอ่านหนังสือไม่ออกจึงกินไปเกือบ 10 เม็ด
โดยหลังเกิดเหตุได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หางดง พร้อมนำเยลลี่กัญชาไปให้ตำรวจเป็นหลักฐาน เพื่อส่งไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีปริมาณกัญชาหรือสารเสพติดผสมอยู่เกินมาตรฐานหรือไม่ ส่วนชายที่นำเยลลี่มาทิ้งที่บ้านของตนเอง ได้โทรศัพท์มาขอโทษเท่านั้น แต่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเพิ่มเติม ขณะที่ตนเองต้องเสียค่ารักษาลูกสาวไปเกือบ 6 หมื่นบาท เพราะไม่สามารถเบิกประกันได้ ทางประกันให้เหตุผลว่าเป็นการเจ็บป่วยที่เกิดจากการใช้สารเสพติด
“ครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะต้องหยุดงานมาดูแลลูกสาวไม่เป็นอันทำอะไร ห่วงลูกมากกลัวว่าลูกจะเป็นอะไร และกลัวเรื่องผลข้างเคียงต่อร่างกายและสมองที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ เบื้องต้นอาจจะดำเนินคดีกับชายคนที่นำเยลลี่ผสมกัญชาเข้ามาในบ้าน” นายเอ็มกล่าว
นายเอ็มบอกด้วยว่า อยากให้หน่วยงานภาครัฐจริงจังกับเรื่องของกัญชามากกว่านี้ แม้จะมีการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดแล้ว ให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น แต่อยากให้เข้มงวดเรื่องการนำกัญชามาผสมในอาหารและขนมด้วย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเช่นเดียวกับกรณีของลูกสาวตนเองอีก ที่รู้สึกเสียใจมากที่สุดคือเรื่องนี้เกิดในบ้านซึ่งควรเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กมากที่สุด