วันที่ 6 ก.ค.68 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ผมเสนอหลักการตั้งต้นก่อนจะวิเคราะห์ข้อเสนอของพรรคประชาชน ว่าการแสดงความเห็นด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายทำได้
เมื่อโพสต์ข้อความออกไป รวมถึงสนทนาขยายความในบางรายการ ก็เกิดพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ข้อเสนอหรือแนวทางของฝ่ายใดจะรับจบโดยไม่มีใครเห็นต่างเลย เป็นไปไม่ได้
เห็นเรื่องบานปลายเป็นปฏิกริยาตอบโต้ไปมาของนักการเมืองจนถึงกลุ่มผู้สนับสนุนจึงอยากใส่ใจ ขอสรุปความจริงตามที่ปรากฏจากข่าวให้เห็นชัดๆอีกทีแล้วจะมูฟออน เพราะที่จริงยังไม่ใช่เวลาของข้อเสนอนี้
ประมาณ 1 สัปดาห์หลังคุณอนุทินลาออกจากตำแหน่งรมว.มหาดไทย คุณโรม คุณไอซ์ ไปกินข้าวกับคุณอนุทิน โดยคุณทอมเป็นคนนัดให้
เรื่องนี้ประชาชนไม่ทราบ แม้แต่คุณช่อก็ไม่ทราบ จนคุณทอมพูดขึ้นในรายการ เอาตัวเองยืนยัน
คุณโรม คุณไอซ์ รับว่าจริง แต่ไปคุยเรื่องปราบคอลเซนเตอร์ ไม่มีดีล ไม่ได้คุยเรื่องอื่น
คุณทอมรู้สึกผิดที่ทำให้หลายคนว้าวุ่น เอ่ยปากขอโทษทุกฝ่าย รับผิดเพียงผู้เดียว ยืนยันว่าไม่มีดีลลับใดๆ แต่บอกว่ามีการพูดสั้นๆในบทสนทนายาว โดยคุณโรมเสนอแนวทางโหวตให้คุณอนุทินเป็นนายกฯจริง ภายใต้เงื่อนไขเดียวกับที่คุณเท้งพูด และเงื่อนไขดังกล่าวปรากฏในแถลงการณ์ของพรรคประชาชน
คุณทอมพูดไม่ตรงหรือคุณโรมพูดไม่ครบ คนที่ไม่ได้ไปกินข้าวด้วย ใครจะไปทราบ
คุณโรมยังไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้พูดเรื่องข้อเสนอตามที่คุณทอมเล่า ส่วนคุณไอซ์ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยยังไม่พูดอะไร
หลังจากวงกินข้าวพูดคุยนั้น คุณเท้งไปออกรายการกรรมกรข่าว (2 ก.ค. 68) บอกว่ามีการพูดคุยระหว่างคนพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย เสนอแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดทางตันทางการเมือง ส่วนตัวผมฟังแล้วเชื่อว่าแนวโน้มชี้ไปทางโหวตคุณอนุทินเป็นนายกฯ(ลองไปเปิดฟังแล้วพิจารณา) เพราะเมื่อพูดถึงคุณชัยเกษม คุณเท้งบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน และชี้ชวนให้คิดด้วยว่าพรรคไหนมีพลังในสว. ซึ่งน่าจะตอบโจทย์เงื่อนไขของคุณเท้งได้
คุณทอมยืนยันว่าคุณโรมพูดเรื่องข้อเสนอกับคุณอนุทิน คุณเท้งบอกว่าคน 2 พรรคคุยกันแต่ไม่ได้บอกว่าใครคุยกับใคร
ส่วนคุณอนุทินทำหน้าปุเลี่ยนๆ ตอบคำถามว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
ข้อเท็จจริงเป็นมาแบบนี้
หลังจากนั้นก็เป็นมุมวิเคราะห์ของผม และหมัดสวนจากใครต่อใคร รวมถึงความเห็นจากหลายฝ่าย เป็นเสรีภาพของแต่ละคน
แถมนิดนึงเรื่องคดีฮั้วสว.
ถ้าบอกว่ารัฐบาลเพิ่งมาทำเรื่องนี้ตอนสลายฟีลกับภูมิใจไทยแล้ว ผมว่าไม่ใช่
มีการร้องเรียน ตั้งคณะสอบสวน ออกหมายเรียก ฯลฯ เดินหน้ามาตั้งแต่กกต.รับรองสว. 200 คน อีกฝ่ายก็ตอบโต้มาเป็นระลอก จนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแล DSI
สื่อมวลชนวิเคราะห์ว่าเป็นศึกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ? ทำอะไรก็เดินยาก แก้รัฐธรรมนูญก็ถูกขวาง
แต่ไม่ได้พูดถึงบทบาทของฝ่ายค้าน
โอกาสหน้าผมจะเล่าให้ฟังพร้อมไทม์ไลน์ครับ
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
#ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #อนุทินชาญวีรกูล #โหวตนายก #พรรคประชาชน #พรรคภูมิใจไทย #คดีฮั้วสว #การเมืองไทย #ดีลลับการเมือง #ฝ่ายค้าน #พรรคร่วมรัฐบาล #กรรมกรข่าว #DSI #ข่าวการเมืองล่าสุด