DPU ผนึก Green Talent Generation และ ReFi Thailand จัดกิจกรรม “Next-Level Sustainability Policy” สร้างประสบการณ์เรียนรู้เรื่อง Climate Change ผ่านเกม กระตุ้นจิตสำนึกเยาวชน
วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เทคโนโลยี (ANT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับ Green Talent Generation และ ReFi Thailand จัดกิจกรรม “Next-Level Sustainability Policy” ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและผู้สนใจจากหลากหลายวงการได้มาร่วมเรียนรู้เรื่อง “ความยั่งยืน” ผ่านกระบวนการคิด การเล่น และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ณ อาคาร 6 (อาคารหอสมุด) ชั้น 11 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
อาจารย์อนุวัตน์ รัตนสมบูรณ์ อาจารย์ประจำสาขา Interactive Digital Arts วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เทคโนโลยี (ANT) กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้นอกชั้นเรียนที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง โดยเน้นการนำ “บอร์ดเกม” มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการย่อยข้อมูลและแนวคิดที่ซับซ้อนเกี่ยวกับ Climate Change ให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงเยาวชนได้จริง
“โครงการนี้จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จุดประสงค์หลักคืออยากให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโลกในอนาคต โดยเฉพาะเรื่อง Climate Change ซึ่งในกิจกรรมจะมีการอธิบายกระบวนการและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโลกร้อน ตั้งแต่สาเหตุ ผลกระทบ ไปจนถึงแนวทางแก้ไขทั้งหมดผ่านเกมกระดานที่เด็กๆ สามารถเล่นและเรียนรู้ไปพร้อมกันได้อย่างสนุก” อาจารย์อนุวัตน์ กล่าว
ในกิจกรรมยังมีการบรรยายพิเศษโดย นายตากเพชร เลขาวิจิตร หรือ “ไต้ฝุ่น” Head of Sales & Business Development บริษัท Mekha V (บริษัทในเครือ ปตท.) ผู้นำด้าน AI, Robotics & Cloud Innovation ที่มาแบ่งปันหัวข้อ “ความยั่งยืนและการพัฒนานวัตกรรม” โดยเน้นการเชื่อมโยงนวัตกรรมดิจิทัล เช่น AI และ Big Data กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
“ทักษะในการทำงานร่วมกับ AI จะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีในอนาคต เพราะ AI จะไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็น ‘เครื่องมือ’ ที่จะช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม แม้ปัจจุบันกระแส Sustainability อาจดูซบเซา แต่ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้เกิดขึ้นแล้ว” นายตากเพชร ระบุ
นายจิรัน เฟื่องนาค ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Green Talent Generation และหนึ่งในผู้ผลักดันกิจกรรมครั้งนี้ เปิดเผยถึงแนวคิดเบื้องหลังงานว่า การออกแบบกิจกรรมไม่เพียงแค่มุ่งให้ความรู้ แต่ยังเน้น “ประสบการณ์” ที่จะปลุกพลังความคิดของคนรุ่นใหม่ให้กล้าคิด กล้าลงมือทำ เพื่อโลกที่ดีกว่า
“Green Talent Generation มุ่งเน้นการใช้เครื่องมือสร้างสรรค์อย่างบอร์ดเกม การเรียนรู้ผ่านกิจกรรม และการทำงานกับชุมชน ในการพัฒนา ‘Green Skills’ ให้กับเยาวชน ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่รวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกัน การคิดอย่างเป็นระบบ และการสื่อสารประเด็นความยั่งยืนให้เข้าใจง่ายด้วย” นายจิรัน กล่าว
นายจิรัน ยังเล่าถึงแรงบันดาลใจส่วนตัวว่า เติบโตในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศโดยตรง ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีพื้นที่เรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงได้และปลอดภัยสำหรับเยาวชน โดยกิจกรรมในครั้งนี้จึงเปรียบเหมือน “สนามทดลอง” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ทดลองคิด ทดลองเรียนรู้ และเชื่อมโยงปัญหาโลกร้อนเข้ากับชีวิตประจำวันของตนเอง
“เราไม่ได้จัดกิจกรรมเพียงเพื่อ ‘ให้ข้อมูล’ แต่เพื่อสร้างบทสนทนา สร้างคำถาม และปลุกให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงได้จริง ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักออกแบบเกม นักสื่อสาร หรือพลเมืองที่ตื่นรู้” ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Green Talent Generation กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายชอว์ ขันติคเชนชาติ ผู้ก่อตั้ง ReFi Thailand กล่าวถึงกิจกรรม Climate Fresk ว่าไม่ใช่แค่บอร์ดเกมทั่วไป แต่เป็นเวิร์กช็อปเชิงลึกที่ใช้กระบวนการออกแบบร่วม (Co-creation) ผ่านชุดการ์ดที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจลำดับเหตุการณ์ของ Climate Change ตั้งแต่ต้นตอถึงผลกระทบในระดับต่างๆ
“กิจกรรมนี้ไม่ได้จบแค่ความเข้าใจเท่านั้น แต่เรายังมีช่วงให้ผู้เรียนสะท้อนความรู้สึก พร้อมตั้งคำถามต่อว่า หากคุณรู้สึกแบบนี้กับ Climate Change แล้วคุณจะ ‘เทคแอ็กชัน’ อย่างไร เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค หรือการส่งเสียงในสังคม” นายชอว์ กล่าว