วันที่ 7 ก.ค.2567 เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ พร้อมด้วย สส. พรรคประชาชน ร่วมยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตรา ในประเด็นว่าด้วยองค์กรอิสระ ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ฐานะประธานรัฐสภา
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะตรวจสอบรายชื่อ จำนวนตามรัฐธรรมนูญ และมาตราที่แก้ไขทั้งหมด หากครบถ้วนและสมบูรณ์ แล้ว ตามขั้นต้อน ต้องเชิญ คณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย คือ สว. รัฐบาล และ ผู้นำฝ่ายค้าน หารือว่าจะพิจารณาตามที่ทุกฝ่ายมีความพร้อม
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคคประชาชน แถลงรายละเอียดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายเป็นมาตรา นั้นมี 3 ฉบับ คือ 1.ฉบับที่แก้ไขว่าด้วยกระบวนการที่มาและกระบวนการสรรหาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ จากเดิมมีการสรรรหาและเสนอชื่อ ผ่านคณะกรรมการสรรหา ซึ่งเป็นช่องทางเดียว ส่วนที่แก้ไข คือให้มีการเสนอชื่อได้ ช่องทางจากที่ประชุมศาล ช่องทางจากสส.รัฐบาล ช่องทางสส.ฝ่ายค้าน และช่องทางของสว. ทั้งนี้จะไม่มีการปรับแก้ไขในเรื่องคุณสมบัติ ยกเว้น กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีความเห็นว่า กรรมการทั้ง 9 คนควรมีความหลากหลาย
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า 2.แก้ไขในประเด็นการคัดเลือกและเห็นชอบ จากเดิมที่ต้องใช้การลงมติของสว. ได้แก้ไขให้มาจากการพิจารณาร่วมกันของรัฐสภา และต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐบาล ทั้งนี้มีเงื่อนไขที่กำหนดว่าต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของ สส.ฝ่ายรัฐบาล และสส.ฝ่ายค้าน และ 3.เพิ่มเติมในกระบวนการถอดถอน ที่ให้สิทธิสส. และประชาชน เข้าชื่อ 20,000 คน ยื่นเรื่องถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระได้ ในกรณีที่ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ
“การปรับกระบวนการสรรหาให้ที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ คือการแก้ปัญหาที่องค์กรต่างๆ นั้นไม่ยึดโยงกับประชาชน ทั้งนี้ข้อเสนอของพรรคประชาชนเชื่อว่าจะได้รับเสียงฉันทามติขั้นต้นจากสมาชิกรัฐสภา โดยทั้ง 3 ฉบับนั้น ให้ศาล และองค์กรไม่เป็นอิสระจากประชาชน แต่อิสระจากการถูกครอบงำจากกลุ่มก้อนทางการเมือง ทั้งนี้ในประเด็นองค์กรอิสระที่ผ่านมาถือเป็นระเบิดเวลาที่ต้องปลดชนวน ซึ่งการแก้ไขรายมาตราดังกล่าวเป็นการทำคู่ขนานกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการแก้ไขดังกล่าวมีบทบัญญัติเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่แน่ใจว่าเขียนเพื่อไม่ให้ถูกแทรกแซงหรือไม่ เพราะปัจจุบันคนที่ชี้ขาดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือ สว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจของประชาชน ซึ่งเป็นที่ถกเถียงและตั้งคำถามว่า ถูกครอบงำจากการเมือง ดังนั้นต้องตั้งหลักว่าในกติกาเพื่อป้องกันการแทรกแซงจริงหรือไม่ ดังนั้นเป้าหมาที่ต้องทำคือให้องค์กรอิสระถูกครอบงำจากฝากฝ่ายใด ยกเว้นประชาชน และเป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้คือการวางเป็นหลักประกัน คนที่ไปดำรงตำแหน่งต้องถูกบังคับใช้กับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าในร่างแก้ไขมีบทเฉพาะกาลเพื่อคุ้มครองกรรมการองค์กรอิสระหรือศาลรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่ขณะนี้หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า มีบทเฉพาะกาลกำหนดไว้ และเมื่อผ่านการพิจารณาวาระหนึ่งแล้ว เชื่อว่าจะวางกรอบเวลาเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง ทั้งนี้ในรายละเอียดทางพรรคจะจัดทำเอกสารเผยแพร่อีกครั้ง