ทำผิดกันอยู่หรือเปล่า? ขั้นตอนใส่ "น้ำยาปรับผ้านุ่ม" ที่ถูกต้อง ซักแต่ละแบบ ใส่ไม่เหมือนกัน!
sanook July 08, 2025 07:07 AM

เคล็ดลับใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มให้ผ้าหอมฟุ้ง นุ่มที่สุด แบ่งตามวิธีซัก

การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผ้าหอมติดทนและนุ่มน่าสัมผัส โดยเฉพาะเมื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับวิธีซักผ้าแต่ละแบบ ทั้งซักมือ เครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือฝาบน ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อย มาดูวิธีที่ถูกต้องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

1. ซักมือ

  • หลังซักผ้าด้วยผงซักฟอกเสร็จ ให้เทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในน้ำสุดท้ายที่สะอาด
  • แช่ผ้าไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้น้ำยาแทรกซึมลึกเข้าสู่เนื้อผ้า
  • สามารถล้างออกก่อนตากได้ หากเป็นผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือซักผ้าเด็กเล็ก
  • หลีกเลี่ยงการเทน้ำยาลงบนผ้าโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดรอยด่าง

2. เครื่องซักผ้าฝาหน้า

  • ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องที่เครื่องกำหนดไว้โดยตรง
  • เครื่องจะปล่อยน้ำยาในช่วงน้ำล้างสุดท้ายโดยอัตโนมัติ
  • ไม่จำเป็นต้องล้างออกอีกครั้ง หากไม่มีอาการแพ้
  • ถ้าลืมใส่ในช่อง สามารถเติมน้ำยาในรอบล้างสุดท้ายได้

3. เครื่องซักผ้าฝาบน

  • รอให้เครื่องเติมน้ำประมาณครึ่งถังก่อน แล้วค่อยใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปในน้ำโดยตรง
  • หลีกเลี่ยงการใส่น้ำยาในช่อง เพราะบางรุ่นอาจไม่ปล่อยน้ำยาในจังหวะที่เหมาะสม
  • ไม่จำเป็นต้องล้างออก เว้นแต่ผู้ใช้งานมีผิวบอบบางหรือซักเสื้อผ้าเด็ก
  • เลือกน้ำยาสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย และล้างน้ำออกก่อนตาก

เคล็ดลับเพื่อผ้าหอมฟุ้งติดทน

  • แช่ผ้าในน้ำยานาน 20-30 นาที จะช่วยให้กลิ่นติดทนนานขึ้น
  • เลือกสูตรน้ำยาที่เข้มข้น หรือมีกลิ่นหอมที่ชอบ
  • อย่าซักผ้าปริมาณมากเกินไปในคราวเดียว เพื่อให้น้ำยาแทรกซึมทั่วถึง
  • ตากผ้าในที่ร่มหรือแดดอ่อน เพื่อรักษากลิ่นหอมและเนื้อผ้า
  • สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรล้างน้ำยาปรับผ้านุ่มออกก่อนตาก

สรุป

น้ำยาปรับผ้านุ่มควรใส่ในช่วงน้ำล้างสุดท้าย ไม่ควรเทลงบนผ้าโดยตรง และไม่จำเป็นต้องล้างออกหากไม่แพ้ แต่หากใช้กับเด็กเล็กหรือผู้มีผิวบอบบาง ควรล้างออกก่อนตากผ้าเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้การแช่ผ้าในน้ำยา 20-30 นาทีจะช่วยให้กลิ่นหอมติดผ้ายาวนานที่สุด

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.