‘เบสเซนต์’ เผยว่า สหรัฐอาจสร้างรายได้จากภาษีนำเข้าเพิ่มเป็น 300,000 ล้านเหรียญ (ราว 9.8 ล้านล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2025 

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวเมื่อ 8 กรกฎาคม เวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐได้รับรายได้จากภาษีนำเข้าในปีนี้แล้วประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 9.8 ล้านล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2025 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่มขึ้น

เบสเซนต์กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาวว่า รายได้การจัดเก็บภาษีหลัก ๆ มาจากภาษีใหม่ของทรัมป์ซึ่งเพิ่งเริ่มในไตรมาสที่สอง เมื่อทรัมป์ใช้ภาษีนำเข้าเกือบ 10% และเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์

โฆษกกระทรวงการคลังอธิบายเพิ่มว่า เป้าหมาย 300,000 ล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2025 ตามปีปฏิทิน ไม่ใช่วันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีงบประมาณของรัฐบาล

การจัดเก็บภาษีได้ถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ หมายความว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าการจัดเก็บภาษีนำเข้าจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และภาษีจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและกว้างขึ้นจากระดับปัจจุบัน

เบสเซนต์ยังกล่าวเสริมว่า รายได้ภาษีศุลกากรของสหรัฐน่าจะสูงกว่าที่สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ประมาณการไว้ ว่าจะรวมอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 91 ล้านล้านบาท) ใน 10 ปีข้างหน้า

กระทรวงการคลังรายงานรายได้รวมของภาษีศุลกากรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 22,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 740,000 ล้าน) ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากยอดรวม 6,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 200,000 ล้าน) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีในช่วงแปดเดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 อยู่ที่ 86,100 ล้านดอลลาร์ (2.8 ล้านล้านบาท) ส่วนการจัดเก็บในช่วงห้าเดือนแรกของปีปฏิทิน 2025 อยู่ที่ 63,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 2 ล้านล้านบาท)

กระทรวงการคลังมีกำหนดรายงานผลงบประมาณเดือนมิถุนายนในวันศุกร์นี้ (11 กรกฎาคม) ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยตัวเลขรายได้ภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน การจัดเก็บภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตรวมกันอยู่ที่ 122,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.9 ล้านล้านบาท) ในปีงบประมาณปัจจุบัน ตามรายงานของงบแสดงฐานะการเงินรายวันของกระทรวงการคลังสหรัฐ (Daily Treasury Statement : DTS)

ทั้งนี้ ทรัมป์ได้กำหนดเส้นตายใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคมสำหรับอัตราภาษีศุลกากรแบบต่างตอบโต้ที่สูงขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับคู่ค้าเกือบทั้งหมด โดยได้เปิดให้เจรจากับหลายประเทศในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อลดอัตราภาษีลง

“เงินก้อนใหญ่จะเริ่มเข้ามาในวันที่ 1 สิงหาคม ผมคิดว่าวันนี้ชัดเจนแล้วจากหนังสือที่ส่งออกไปเมื่อวานและวันนี้” ทรัมป์กล่าว