ใหม่ ดาวิกา เคลียร์ชัด! แต่งเข้าไม่ผิด ขอทำให้ดู ว่ารอดไหม-เต๋อ ทุ่มสุดตัว สร้างบ้านในรั้วแม่ภรรยา

หลังจาก “เต๋อ ฉันทวิชช์” ขอ “ใหม่ ดาวิกา” แต่งงานด้วยแหวนเพชร 15 กะรัต ทำเอาโซเชียลลุกเป็นไฟ ต่อมา ใหม่ ออกอีเวนต์เปิดใจ และบางคำสัมภาษณ์เธอเล่าว่า หลังแต่งจะให้ เต๋อกับแม่ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของเธอ หรือที่เรียกว่า “แต่งเข้า” ซึ่งกลายดราม่า เมื่อมีชาวเน็ตบางส่วนทักแรงแต่งเข้าอยู่กับแม่เมียแบบนี้ไหวเหรอ?

ล่าสุดทั้งคู่ได้มาร่วมงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ LUNA ที่เซ็นทรัลฯ ลาดพร้าว ซึ่งหลังจบงาน ว่าที่เจ้าบ่าว ได้ มอบดอกไม้ช่อโตให้ว่าที่เจ้าสาว เพื่อแสดงความยินดีกับการเป็นพรีเซนเตอร์ หลังจากนั้นได้ให้สัมภาษณ์เผยทุกโมเมนต์ตั้งแต่เตรียมขอ ยันอนาคตหลังแต่ง! และประเด็นที่ชาวเน็ตเป็นห่วง

เต๋อ: “ก็ตื่นเต้นครับดีใจ ผมก็นับวันรอเวลาเรื่อยเรื่อยครับเพราะอยู่กับเขาก็แฮปปี้ดีความสุขถ้าวันไหนแต่งงานก็ยิ่งจะมีความสุข

วันที่ขอ จริงๆเราต้องดูคิวกันด้วย เพราะว่าแต่ละคนก็งานเยอะกันทั้งคู่ แต่ว่าก็มีความตั้งใจอยู่แล้ว คือเราอยู่ด้วยกันมานาน ก็อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันก็ประมาณ7-8 ปี ก็รู้สึกว่า ถ้าเราแต่งงานกันมันน่าจะดี ก็คุยกันแล้วก็ล็อควัน (ก็ไม่ได้เป็นการเซอร์ไพรส์แต่เป็นการล็อกวัน?) ก็เซอร์ไพรส์ระดับนึงครับ”

เรื่องแหวน 15 กะรัตมันต้องใช้เวลาเตรียมหรือเปล่า?
เต๋อ: “ครับ แหวนต้องหาล่วงหน้า ก็ต้องได้แหวนก่อนครับถึงจะได้วัน ก็อยากมีแหวนก่อน ส่วนคุณแม่ของน้องก็บอกก่อนจะขอ แต่คือจริงๆอ่ะครอบครัวทั้งสองฝั่งอ่ะรับรู้กันอยู่แล้ว เราก็คุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว ว่าเราจะไปสเต็ปต่อไปแล้วนะ จากแฟนก็จะกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วก็จะแต่งงานก็เป็นการคุยกันอยู่แล้ว”

แล้วอะไรมันถึงทำให้ตัดสินใจว่าเราจะต้องหมั้นต้องแต่งกันในปีนี้?
เต๋อ: “คือมันอดใจไม่ไหวแล้วที่จะอยู่กับเขา คือปล่อยไปไม่ได้แล้ว”

ใหม่: “พร้อมตั้งนานแล้ว รอตั้งนานแล้วเลย ก็ตอนที่พี่เต๋อขอ เราก็เซย์เยสอยู่แล้วเพราะว่าเราอ่ะล็อคคิวไว้ให้แล้ว ใหม่ดีใจมาก คือการที่ผู้ชายคนนึงจะขอ การที่เขาจะเลือกผู้หญิง อย่างแม่ใหม่อ่ะ ตื่นเช้ามาแม่บอกเลยว่าลูกสาวแม่มีบุญเนาะมีคนมาขอแล้ว แล้วหนูก็เออว่ะชีวิตนึงอ่ะ ผู้ชายเห็นค่าเห็นคุณค่าในตัวเรา และอยากจะอยู่กับเราต่อให้เราเป็นยังไง เขาก็อยากอยู่กับเรา ก็รู้สึกดีใจมากๆ ก็เข้าใจโมเมนต์ผู้หญิงที่เขาอยากแต่งงาน ตอนแรกอ่ะไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยคิดว่าเออก็แต่งปกติไม่มีอะไร”

แล้วโมเมนต์เหมือนในละครไหม? น้ำหูน้ำตาแตก?
ใหม่: ”ไม่มีเลย อยากจะขอเทคสองด้วยซ้ำ ไม่เห็นเหมือนในละครเลย”
เต๋อ: “คือจริงๆคนที่จะร้องไห้อ่ะเป็นผมตลอดเลย คือผมเป็นคนตื้นตัน จริงๆเขาอาจจะมองว่าเขาดีใจที่ผมไปขอ แต่ผมเองรู้สึกว่าผมโชคดี อย่างที่ผมบอกผมหมายความว่ายังงั้นจริงๆ คือผมไม่อยากจะปล่อยเขาไปอีกแล้วในชีวิตนี้”

จำประโยคที่เราขอเขาได้ไหม?
เต๋อ: “คือจริงๆตอนนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึกแต่ถ้าคีย์เวิร์ดหลักๆก็จะดูแลเขาให้ดีที่สุดอยากให้เขามีความสุขในทุกๆวัน”

ใหม่: “คือเอาความจริงนะ เวลาใหม่อยากอะไรมากๆอ่ะจะไม่บังคับไม่ไปกดดันพี่เต๋อ เพราะใหม่รู้สึกว่าการที่เขาอยากเดี๋ยวเขาจะอยากของเขาเอง เราก็จะภูมิใจว่าสิ่งนี้มันเกิดจากผู้ชายจริงๆไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้หญิงแล้วเราจะไปบังคับทำนุ่นทำนี่ ใหม่ก็เลยปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติ จริงๆ เป็นเนเจอร์ของพี่เต๋อว่าพี่เต๋ออยากทำเมื่อไหร่อะไรยังไง ถ้าเราพร้อมแล้วแต่ถ้าผู้ชายยังไม่พร้อมมันก็ไม่ควรคือมันต้องพร้อมทั้งสองฝ่าย“

เรื่องฤกษ์?
ใหม่: ”อันที่จริงอ่ะ เรามองว่าเราอยากจะให้ภายในปีนี้ยังไม่ได้ฤกษ์ที่แน่ชัดว่าวันไหน“
เต๋อ: ”ก็คิดว่าอยากจะให้ภายในปีนี้ ที่ไม่ได้เพราะว่าปีเนี่ย ฤกษ์ดีน้อย คือก็แล้วแต่คนครับ แต่พอดีวันเกิดของเราสองคนน่ะมันก็จะมีวันได้ประมาณนึง แล้วก็ดูให้มันเหมาะสม อยากให้พอมันเป็นงานปุ๊บ ก็อยากจะได้มันเป็นวันที่ดี ก็อยากให้ความรู้สึกว่าวันนี้มันฤกษ์ได้“

มันจะฉุกละหุกไหม เพราะว่าหลายคนก็เตรียมงานแต่งงานเป็นปีๆ?
ใหม่: ”ใหม่ว่าใหม่มีแพลนมาบ้างแล้ว ก่อนที่จะเกิดการขอ มันก็จะมีประมาณๆอยู่แล้ว(ตัดชุดแล้ว?) ชุดมีคิดไว้ แต่ยังไม่ตัด แต่ว่ามีแล้วว่าอยากจะใส่อะไรแบรนด์ไหนคิดไว้อยู่แล้ว“

ถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์?
ใหม่: ”10 ทุกอย่างมันยังอยู่ในอากาศ โครงมันมาแล้ว แต่มันยังอยู่ในอากาศยังไม่เฟิร์มเฟิร์มเฟิร์ม“

แล้วคิวได้ไหมถ้าถ้าปลายปี เคลียร์งานทันไหม?
ใหม่: ”เราก็ต้องแคนเซิลงานเพื่อที่จะแต่งงาน“
เต๋อ: ”ใช่ครับ คือสำหรับเราสองคนสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆในชีวิต ก็คิดว่าถ้าต้องแต่งงานจริงๆมันก็ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ณ ตอนนั้นอยู่แล้ว คิดว่าเคลียร์คิวได้อยู่แล้ว ไม่ได้ก็ต้องได้“

เป็นงานช้าแห่งปีไหม?
ใหม่: ”น้อยๆพอประมาณ แขกก็ยังไม่ได้คิดเลย ยังไม่ได้มีการ์ดยังไม่มีอะไรเลยมันยังไม่มีวันที่เลย อย่างที่บอกเลยว่า 10%“

ย้อนถามถึงแหวน 15 กะรัต เต๋อทุ่มสุดตัวเลยไหม?
เต๋อ: ”ด้วยน้องใหม่ วันเกิดเขาปีนี้เขาซื้อแหวนเป็นของขวัญให้ตัวเอง 10 กะรัต คืออย่างน้อยอ่ะถ้าเราจะขอคนคนนึง เราก็ต้องให้ความมั่นใจว่าเราต้องดูแลเขาให้ดีมาเสริมชีวิตเขาให้มันดีขึ้น ในเมื่อตัว้ขาเองอ่ะก็ 10 แล้ว ถ้าน้อยกว่า แล้วคุณจะมาเสริมยังไงนึกออกป่ะ ก็เลยเป็นสิ่งที่ตั้งใจว่าให้เป็นสัญลักษณ์บางอย่างว่าเราจะต้องดูแลเขาได้ก็เลยต้องซื้อที่มากกว่าที่เขามีก็เหงื่อแตกอยู่“

ขนาดทำไมมันเป๊ะ?
ใหม่: ”คือหนูอ่ะจิ้มเอง เลือกเองแล้วค่อยบอกราคา“
เต๋อ: ”จริงๆอ่ะเขาแค่บอกคุยกันว่า ขอมากกว่าที่เขามี เราให้เขาเท่าไหร่ก็ได้แล้วเขาบอกว่าถูกใจวงนี้ (ถ้าเกิดเขาซื้อ 15 กะรัต เราต้อง 20?) ก็คือเป็นสาเหตุให้รีบแต่งกลัวปีถัดไป 15 ผมจะต้อง 20“

ใหม่: ”ใหม่ไม่เอาแล้วนี่ก็เกินฝันแล้ว“

แล้วมันต้องใส่ตลอดไหม?
เต๋อ: “ผมเพิ่งคุยเรื่องนี้ไปเองเค้าก็ชอบ แต่เราก็นอยอยู่ เหมือนกัน แต่บางงานที่มันสวยงามและเหมาะสมก็ใส่“

ใหม่: ”สรุปนะคะ พี่เต๋อไม่ให้หนูใส่ หนูก็เลยบอกพี่เต๋อว่าไปซื้อแหวนเกลี้ยงมาให้หนูค่ะ แต่หนูอยากใส่ทุกวัน คือใหม่ชอบค่ะ ใหม่ก็ไม่ได้ไปไหนเยอะ ใส่ในโลเคชั่นหรือสถานที่ที่ใหม่ควบคุมได้ ไม่ได้ใส่ไปเดินในที่ที่น่ากลัว แต่ไม่ใส่แล้วนะคะ โจรอย่าเพ่งเล็งไม่ใส่แล้วนะคะ”

เต๋อ: ”ใส่“

ใหม่: “ไม่ใส่ก็เดี๋ยวใส่แหวนเกลี้ยงไง พี่ก็ซื้อแหวนเกลี้ยงให้หนูอีกวงนึง“

เต๋อ: ”ตอนนี้เหมือนผมต้องหาแหวนสำรองละ“

อย่างใหม่บอกก่อนหน้านี้ว่าเคยลองใช้ชีวิตคู่กันแล้วเป็นยังไงบ้าง?
เต๋อ: ”จริงๆการลองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันน่ะมันก็คือสาเหตุที่ทำให้เราขอแต่งงาน เพราะว่าเรารับรู้ว่าเราสามารถอยู่ด้วยกันได้ดีมากๆ แล้วก็บางสิ่งบางอย่างที่ต้องปรับก็ปรับไปหมดแล้วช่วงแรก ทุกวันนี้ก็เหมือนไม่ต้องปรับอะไรเลย“

ใหม่: ”คือเราไม่ได้ย้ายมาอยู่ในบ้านจริงๆจังๆนะตอนแรกๆอ่ะเหมือนไปๆกลับๆ หลายเดือนเกือบปีที่เราใช้ชีวิตด้วยกันแบบไปๆกลับๆ แต่พอหมั้นก็ล็อกบ้านเลยไม่ให้กลับ ขังเลย หนูจะได้มีเพื่อน หนูขี้เหงา คือบ้านหนูไม่มีเพื่อนเลย“

ใหม่ดูคลั่งรักสุดๆ
ใหม่: ”ใหม่ไม่คลั่งรัก แต่จะเป็นคนชัดเจนก็เลยเหมือนเป็นคลั่งรักแต่จริงๆใหม่ชัดเจน“
เต๋อ: “ใช่ครับผมคลั่งรัก”

พี่เต๋อพูดกับสื่อประจำบอกรัก-ชมสวย วันนี้ใหม่ลองพูดหน่อยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมาเป็นว่าที่สามีเรา?
ใหม่: “คือใหม่โชคดีมากที่ใหม่เจอพี่เต๋อค่ะขอบคุณที่มาจีบหนูนะ ทำให้เราได้เป็นแฟนกันแล้วตอนนี้ก็กำลังจะเป็นครอบครัว”

แสดงว่าเราจำโมเมนต์วันแรกได้เลย?
ใหม่: “เดี๋ยวเล่ายาวเอาไว้ครั้งหน้าแล้วกัน”

ครั้งที่แล้วใหม่บอกว่าขอบคุณพี่เต๋อที่รับใหม่ไปเป็นภรรยา แล้วเต๋อล่ะ?
เต๋อ: “คือขอบคุณเขาอย่างแรกเลยที่เขาตอบตกลง คือสิ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมากๆเลย คือการที่เขาเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา ผมมีความสุขมากขึ้นเยอะมาก แล้วชีวิตเราอ่ะมีเป้าหมาย เมื่อก่อนผมอยู่แต่กับตัวเองก็รู้สึกว่าอยู่แต่กับตัวเองมันก็ชิลๆ แต่พอมีคนเข้ามามันก็เหมือนสร้างอะไรบางอย่างในใจเรา ทำให้เรารู้สึกเต็มอิ่ม ก็ดีใจที่มีเขาอยู่ ก็รู้สึกมันเป็นแบบนี้ ก็ปล่อยเขาไปไม่ได้แล้ว”

แล้วหลังจากแต่งงานยังไง?
ใหม่: “คืออยากจะบอกว่าขอบคุณพี่เต๋อ เข้าใจเรา เลือกเป็นงานแต่งเข้า แต่ละบ้านน่ะใหม่เชื่อว่ามีเนเจอร์ไม่เหมือนกัน บางคนก็แต่งแยกไปสร้างเรือนหอ แต่พี่เต๋อน่ารักมากๆแล้วก็ขอบคุณ คือทุกแบบไม่มีแบบไหนผิดเลยนะ เอาที่ครอบครัวของแต่ละท่านสบาย แต่ใหม่ขอบคุณมากๆที่ผู้ชายคนนี้เข้าใจว่าใหม่อ่ะไม่สามารถแยกตัวออกจากแม่ได้ คือแม่ของหนูเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แล้วแม่ของใหม่เขาจะ 70 แล้ว ใหม่ก็ไม่กล้าให้เขาอยู่บ้านคนเดียว เผื่อเขาล้มไปอ่ะ ไม่มีใครช่วยก็เลยแยกเขาไม่ได้จริงๆ พี่เต๋อก็น่ารักมากๆนะพี่เขาอยู่คอนโดก็เลยจะมาสร้างบ้านในที่บ้านของใหม่“

เต๋อ: ”แต่การมาสร้างบ้านผมก็ซื้อที่ แต่คือเป็นที่ที่อยู่ในบ้านเขานั่นแหละ“

ใหม่: ”ใหม่มี5ไร่ใหม่ก็ขายให้พี่เขาไร่หนึ่ง แต่ในโฉนดก็เป็นชื่อใหม่อยู่เหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยน”

เต๋อ: “ผมโอเคครับยังไงก็เป็นครอบครัวผมไม่มีวันจะเลิกกันอยู่แล้ว (ยังไงทุกอย่างของพี่เต๋อก็ต้องเป็นของน้องใหม่?) ใช่ครับมันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว”

แต่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจไม่เก็ตเรื่องการแต่งเข้า?
ใหม่: “เข้าใจ อันนี้ใหม่ก็ไปทำการศึกษามาแล้วก็เลยคุยกับพี่เต๋อเรื่องนี้ว่า เออพี่เต๋อมันแบบนี้จริงๆ คือพี่เต๋อบอกว่า บ้านเรามันไม่ได้ลงมาแล้วเจอกันทุกวัน คือมันเหมือนรั้วเดียวกัน แต่ว่ามัน..”

เต๋อ: “คือมันเป็นบริบทของแต่ละคน คือด้วยความที่พื้นที่บ้านเขาเยอะใช่ไหมครับ เราก็ซื้อพื้นที่ส่วนนึง แล้วก็สร้างเป็นบ้านอีกหลังนึง มันก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพราะผมรู้สึกว่าเราฐานะลูกหลาน เราก็อยากจะดูแลทุกคนพี่แม่ป้าได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เราก็ให้พื้นที่ความเป็นส่วนตัวเขาด้วย เราก็ไม่ได้อยู่ในหลังเดียวต้องเจอกันตลอด ก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมดีใจว่าแม่ผม แม่น้องใหม่ แล้วก็ป้าน้องใหม่เขาสนิทกัน วันนี้เขาก็มาด้วยกันเขาก็ไปเที่ยวไปอะไรกันอยู่แล้ว”

ซีเรียสไหมที่คนคอมเมนต์เราแบบนี้?
ใหม่: “ไม่เลย เอาเคสพี่ใหม่เป็นตัวอย่าง เดี๋ยวทำให้ดู ว่ามันจะรอดไหม อัพเดตให้ดูถ้าไม่รอดก็เดี๋ยวค่อยมาบอก พี่ว่านะแยกเนาะ ก็ประมาณนี้ก่อนเนาะ อนาคตเราเปลี่ยนได้นะที่รัก”

งวดหน้าเจอกันบอกฤกษ์แต่ง?
ใหม่: “เอาเลยหรอ พี่เต๋อโทรหาซินแสเร็วๆ (หัวเราะ)