ย้อนไปดูข่าวตั้งแต่ปลายปี 2567 มีการพูดถึงเป้าหมายใหญ่ที่จะต้องจัดการ เพื่อกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ได้ผล นั่นคือ ตึก 25 ชั้นในปอยเปต กัมพูชา ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์
คนที่ออกมาเปิดประเด็นนี้คือ นายทักษิณ ชินวัตร พูดตั้งแต่ปลายปี 2567 พอต้นปี 2568 ก็นำมาพูดอีกครั้ง เน้นไปที่เจ้าของอาคารดังกล่าว จะต้องดำเนินคดีให้ได้!
แถมระบุด้วยว่า ได้แจ้งไปทางเขมรแล้ว ช่วยจัดการให้หน่อย ถ้าจัดการไม่ได้ คงต้องขออนุญาตส่งคนไปจัดการเอง คาดว่าภายในปี 68 จะจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เกลี้ยง
เมื่อย้อนดูข่าวนี้ ทำให้สงสัยว่า ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้นำกัมพูชา อาจจะเริ่มคุกรุ่นมาตั้งแต่นายทักษิณ ชี้เป้าตึก 25 ชั้น
เพราะเจ้าของตึกดังกล่าวคือ นายก๊ก อาน คนสนิทของฮุนเซน นั่นเอง
เท่ากับว่ารัฐบาลไทย ประกาศจะทุบหม้อข้าวสำคัญของผู้นำประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว!!
จนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำเสนอต่อศาลอาญา จนได้รับอนุมัติหมายจับกุมนายก๊ก อาน
ก่อนจะเข้าตรวจค้นล่าตัว ในกทม.และหลายจังหวัด เมื่อเช้ามืด 8 กรกฎาคม
แม้ว่าจะไม่ได้ตัวนายก๊ก อาน และลูกสาว ซึ่งมีชื่อไทยและเป็นเจ้าของบ้าน แต่เท่ากับตัวการใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตกเป็นผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการแล้ว!
จากนี้จะต้องประสานหมายจับไปยังตำรวจสากล
อีกทั้งมีข่าวว่า เร็วๆ นี้ นายก๊ก อาน จะโดนคดีเพิ่มคือข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน!!
เท่ากับว่านายก๊ก อาน คนสนิทของผู้นำกัมพูชา ตกอยู่ในฐานะลำบากมากๆ
มีทั้งหมายจับ เป็นตัวการแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ และกำลังจะมีคดีค้ามนุษย์เพิ่มอีก
โดยคดีค้ามนุษย์นั้น เนื่องจากคนไทยที่โดนล่อลวงไปทำงานในอาคารมิจฉาชีพออนไลน์ ได้ให้การยืนยันว่า มีการกระทำผิดในอาคารนั้นอย่างไร
ไปจนถึงมีการบังคับกักขังทำร้ายด้วย!!
คาดว่าขณะนี้นายก๊ก อาน น่าจะหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติกลับไปยังกัมพูชาแล้ว
แต่จะไปไหนมาไหนออกนอกประเทศคงยากลำบากเต็มที
เพราะคงจะโดนหมายแดงของอินเตอร์โพล ตามล่ากันทั่วโลก
ที่เคยเข้ามาในไทยบ่อยๆ มีบ้านพักหรูหรา รถยนต์ ทรัพย์สินเงินทอง
จะต้องโดนยึดทรัพย์ทั้งหมด
ไทยไม่ใช่สวรรค์ของหัวโจกแก๊งคอลเซ็นเตอร์และคนสนิทของผู้มีอำนาจในกัมพูชาอีกต่อไปแล้ว!
วงค์ ตาวัน