เจ้าอาวาสวัดดัง สารภาพ โดนแก๊งคอลหลอก ทำผิดช่วยตัวเอง ก่อนถูกขู่เอาเงิน รับคุยกัน 10 วัน แล้วหลงเชื่อ สิ่งที่ทำมา 30 ปี สูญสิ้นชั่วพริบตา ยันไม่ทำอีก หากทำผิดจะผูกคอตาย
วันที่ 11 ก.ค.2568 ที่วัดช่างเหล็ก ต.ช่างเหล็ก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีชาวบ้านและประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบวัดเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ พระครูประทีปวัชราภรณ์ (วิเชียร ปญฺญาทีโป) เจ้าอาวาสวัดช่างเหล็ก เจ้าคณะตำบลบ้านกลึง ที่กำลังตกเป็นข่าวเรื่องคลิปฉาวถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชียล
โดย พระครูสุวัฒน์บุญโญภาส เจ้าคณะอำเภอบางไทร เจ้าอาวาสวัดเชิงเลน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูใบฎีกานพรัตน์ ภาคพิธเจริญ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางไทร พร้อมด้วยคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง มาทำการสอบสวนเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับทางเจ้าอาวาส
จากนั้นมาทำความเข้าใจชี้แจงกับกลุ่มชาวบ้าน
พระครูสุวัฒน์บุญโญภาส เจ้าคณะอำเภอบางไทร กล่าวว่า จากการที่ปรากฏภาพตามสื่อต่างๆและทำให้ญาติโยมตกใจ ที่ผ่านมาได้กำชับให้พระสงฆ์ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย บางเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อนไม่รู้ที่มาที่ไปว่าเป็นมาอย่างไร และได้ดำเนินการอย่างไรบ้า งและแก้ไขได้อย่างไรบ้าง จะได้ไม่เสียความเสียหายต่อคณะสงฆ์ ต่อวัด ต่อศาสนา ซึ่งบอบช้ำมาก เรื่องนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของพระธรรมวินัยแล้วเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านมา 1 ปี แล้ว เป็นเรื่องเก่านั่นเอง
ด้าน พระครูใบฎีกานพรัตน์ ภาคพิธเจริญ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางไทร กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น คณะสงฆ์ ชาวบ้านเรื่องทุกข์ใจมาก คลิปวิดีโอเป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่ กลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่มีการเซ็นหนังสือแต่งตั้งท่านเป็นเจ้าคณะตำบลพอดี ทางเจ้าคณะอำเภอ และ คณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง ได้เรียกท่าน เจ้าอาวาสมาทำการสอบสวนทันที
และท่านได้มีความตั้งใจเข้ามารับ สารภาพ ว่าได้กระทำผิดจริง ที่ประชุมคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองได้พิจารณาตามความผิดที่ท่านกระทำแล้วเป็นความผิด ทางวินัยของสงฆ์ สังฆาทิเสส ระดับกลาง คือจงใจให้น้ำอสุจิเคลื่อน ได้ให้ท่าน ปลงอาบัติอยู่ปริวาสกรรม ถึง 3 ครั้ง ในรอบ 1 ปี และ ท่านเจ้าอาวาส ท่านเป็น พระพระอุปัชฌาย์ ในระหว่างนั้น ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เลย
การพิจารณาความผิดและการลงโทษท่านเจ้าอาวาสเราใช้หลักพิจารณาหลายอย่างประกอบการทั้งพระธรรมวินัยสงฆ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี กฎหมายบ้านเมือง และตามประกาศของมหาเถระสมาคมมาพิจารณาแล้ว ความผิดของท่านไม่ถึงขั้นปาราชิก และไม่มีความผิดทางกฎหมาย คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองได้ว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งท่านยอมรับสารภาพว่าท่านมีความผิดตามที่ปรากฏจริง
ส่วนในเรื่องของการแต่งตั้งเจ้าคณะตำบลตามหลักของคณะสงฆ์แล้วท่านเป็นรักษาการเจ้าคณะตำบลอยู่ จนมีการพิจารณาความผิด และลงโทษ ตามหลักพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ แล้ว ไม่มีการคัดค้านจึงมีการตั้งแต่งตั้งท่านเป็นเจ้าคณะตำบล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองได้สอบถาม ชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังการชี้แจงว่าทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรยังมีความต้องการให้ท่านปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบลอยู่หรือไม่ โดยเสียงของชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าให้ท่านปฎิบัติหน้าที่ต่อไป
แต่มีชาวบ้านรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่าไม่ให้สมควรที่จะให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะตำบลไม่สามารถที่จะกราบไหว้ได้ จนเกิดการโต้เถียงกันระหว่างชาวบ้าน
เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ ได้อธิบายว่าความผิดของท่าน ไม่ถึงขั้นปาราชิกเป็นความผิดทางวินัยซึ่งได้ผ่านการพิจารณาและกำหนดบทลงโทษไปแล้วไม่สามารถที่จะบังคับให้ท่านลาสิขาได้อยู่ที่ความสมัครใจของท่านเจ้าอาวาส
ส่วนเรื่องที่ญาติโยมไม่เห็นด้วยจะไม่กราบกราบไหว้ท่านเจ้าอาวาสเป็นเรื่องความคิดเห็นส่วนตัวของโยม ทางฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ได้พิจารณา และปฏิบัติตามพระธรรมวินัยทุกขั้นตอนแล้ว
ด้าน พระครูประทีปวัชราภรณ์ เจ้าคณะตำบลบ้านกลึง ที่ปรากฏอยู่ในคลิป กล่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งทักเข้ามาที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของตน โดยเป็นโปรไฟล์แม่ค้า ขายโดนัท ทักเข้ามาตีสนิททำความรู้จักได้ประมาณ 10 วัน จนมีการพูดคุยกันแล้วล่อลวงให้อาตมาสำเร็จความใคร่
หลังจากนั้นมีการข่มขู่อาตมาจนมีการโอนเงินเป็นรวมแล้วประมาณ 120,000 บาท ซึ่งเป็นเงินส่วนตัว จนเงินที่อาตมาเก็บเอาไว้หมดไม่มีจะจ่ายให้แล้ว จึงนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองอำเภอบางไทร พร้อมกับที่อาตมาได้เข้าไปรับสารภาพ ยอมรับการกระทำความผิดที่ทำลงไปด้วยความที่ขาดสติ
ความดีที่ปฏิบัติมาทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาพัฒนาวัด 30 กว่าพรรษาสูญสิ้นไปเพียงชั่วพริบตาเป็นตราบาปทำให้ญาติโยมเสียใจ รวมถึงญาติพี่น้องและตัวอาตมาเองด้วย ขนาดญาติพี่น้องของอาตมาเองก็ยอมรับไม่ได้ไม่ยอมมาทำบุญ
ซึ่งเรื่องนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับหญิงสาวคนดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นกลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เส้นทางการเงินที่โอนไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถที่จะติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดได้ และหญิงสาวคนดังกล่าวก็ไม่มีตัวตนเป็นวิดีโอที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวง
สิ่งที่กระทำไปเป็นความผิดที่ไม่เหมาะสมเข้าใจความรู้สึกของญาติโยมดี อาตมาได้ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยในเรื่องของการปลงอาบัติและการอยู่ปริวาสธรรมตามระเบียบทุกขั้นตอนแล้ว
ต่อจากนี้จะตั้งสติตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมที่เคยทำอยู่ จะไม่กระทำผิดในลักษณะแบบนี้อีก สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว จะไม่เกิดขึ้นอีก ในช่วงชีวิตที่คลองสมณเพศเป็นพระสงฆ์อยู่ ถ้าเกิดขึ้นอีกจะแขวนคอหน้าโบสถ์เป็นการลงโทษตนเอง