“เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์” ชี้เศรษฐกิจโลกน่ากลัว ชะลอแผนลงทุนโปรเจ็กต์ 2 พันล้านบนใจกลางเมืองพัทยา ขอโฟกัสบริหาร 23 โรงแรมทั่วประเทศเพิ่มรายได้ พร้อมซุ่มศึกษาตลาดอีสาน “อุดรฯ-ขอนแก่น” พายุเศรษฐกิจสงบเมื่อไหร่ลงทุนทันที เผยภาพรวมโรงแรมเมืองท่องเที่ยวยังโต บุ๊กกิ้งล่วงหน้าเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้เกือบเต็มแล้ว ล่าสุดออกบัตรลอยัลตี้โปรแกรม Cape & Kantary Card เพิ่มสิทธิพิเศษเอาใจลูกค้าทั้งชาวไทย-ต่างชาติ
นางธีรวัลคุ์ เตชะอุบล เจ้าของในฐานะผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการกลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ (กลุ่มเกษมกิจ) เปิดเผยว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง บวกกับมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ทั้งในระดับโลกและภายในประเทศที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอการลงทุนโครงการโรงแรมหรู 2 แห่ง บนพื้นที่ 15 ไร่ ติดกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา จ.ชลบุรี (มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท) ออกไป
ทั้งนี้ จะโฟกัสบริหารโรงแรม 23 แห่งที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนพัฒนาและรีโนเวตโรงแรมที่เครือให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสอดรับกับดีมานด์ของตลาด และสามารถสร้างรายได้และกำไรได้ตามเป้าหมายก่อน อาทิ เคปพันวา ภูเก็ต อยู่ระหว่างการพัฒนาพูลวิลล่าใหม่ หรือล่าสุดได้ทำการรีโนเวตห้องอาหารที่แคนทารี เชียงใหม่ เช่นเดียวกับเคป นิทรา หัวหิน ที่เพิ่งรีโนเวต และมีแผนรีโนเวตใหญ่ แคนทารี รามคำแหง (รามคำแหง 42) เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพื่อขยายการลงทุนไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) จำนวน 2-3 โครงการ อาทิ อุดรธานี ขอนแก่น เป็นต้น เนื่องจากภาคอีสานเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่บริษัทยังมีโรงแรมในโซนนั้นแค่ที่นครราชสีมาเท่านั้น
นางธีรวัลคุ์ยังกล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจโรงแรมด้วยว่า แม้ภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังอยู่ในแดนลบ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน แต่โรงแรมในกลุ่มของเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีนมากนัก ทำให้ภาพรวมของโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ยังสามารถเติบโตได้ดีในแง่ของรายได้ ส่วนโรงแรมที่อยู่ในโลเกชั่นเมืองอุตสาหกรรมนั้นได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากมีโรงงานบางส่วนปิดตัวลง และโรงแรมอีกบางส่วนลดกำลังการผลิต ทำให้ลูกค้าในกลุ่มผู้บริหารที่มาพักเพื่อธุรกิจลดลง
“โรงแรมของเราไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติตลาดใดตลาดหนึ่ง เรามีแค่โลว์ซีซั่นและไฮซีซั่น ซึ่งโลว์ซีซั่นปีนี้เราโตได้ไม่มากนัก เพราะโลว์ซีซั่นปีที่แล้วตัวเลขดีมาก แต่คาดว่าช่วงไฮซีซั่นปีนี้จะดีกว่าไฮซีซั่นปีที่แล้วอย่างชัดเจน และตอนนี้ยอดบุ๊กกิ้งล่วงหน้าของเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของโรงแรมที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวของเราเกือบเต็มหมดแล้ว” นางธีรวัลคุ์กล่าว
นางธีรวัลคุ์กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวบัตรลอยัลตี้โปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Cape & Kantary Card (บัตรเคป แอนด์ แคนทารี) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนจากการเข้าพักในโรงแรมทั้ง 23 แห่งในเครือ พร้อมแลกคะแนนสะสมเป็นห้องพักได้ฟรี
โดยทุกการใช้จ่าย 1,000 บาทต่อค่าห้องพักต่อวัน สมาชิกจะได้รับ 1 คะแนนสะสม เมื่อสะสมคะแนนครบ 20 คะแนนขึ้นไป สามารถแลกห้องพักโรงแรมในเครือได้ฟรี 1 ห้อง (1 คืน) พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน (จำนวนคะแนนแลกห้องพักขึ้นอยู่กับโลเกชั่น ช่วงเวลา และโปรโมชั่น) และรับคะแนนสะสม 2 เท่าเมื่อเช็กอินในเดือนเกิด (1 ครั้งในเดือนเกิด) รวมถึงส่วนลดสำหรับบริการต่าง ๆ ได้แก่ ส่วนลด 20% สำหรับบริการซักรีด และส่วนลด 15% สำหรับบริการสปา ณ เคปสปา
นอกจากนี้ บริษัทยังมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่ รับคะแนนสะสม 2 เท่าเมื่อสมัครสมาชิกและเข้าพักตั้งแต่วันนี้-30 พฤศจิกายน 2568 (สำหรับการเข้าพักครั้งแรกเท่านั้น) โดยสามารถสมัครฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นี้เป็นต้นไป
“Cape & Kantary Card สร้างสรรค์ขึ้นจากความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ที่มองหาประสบการณ์การเข้าพักที่คุ้มค่า อีกทั้งยังเป็นการมอบความพิเศษให้ลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Repeater หรือมาพักซ้ำในสัดส่วนถึงราว 70%”
นางธีรวัลคุ์กล่าวว่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ได้เปิดตัวลอยัลตี้โปรแกรม ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงแรมกับแขกผู้เข้าพักให้แน่นแฟ้นขึ้น รวมถึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการตอบแทนความไว้วางใจในรูปแบบที่จับต้องได้ ทั้งในแง่ของคุณภาพ การบริการ และความพิเศษที่แตกต่าง