จ๋าย ไททศมิตร ชุ่มฉ่ำหัวใจ แฟนเพลงวัยมัธยมแห่กรี๊ดห้างแตก เผยไม่เคยร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์บนเวที

ทำเอานักร้องหนุ่ม จ๋าย อิชณน์กร หรือ จ๋าย ไททศมิตร ชุ่มฉ่ำหัวใจไม่น้อย เมื่อกลุ่มแฟนเพลงวัยมัธยม แห่กรี๊ดคอนเสิร์ตทำเอาห้างแตก ทำให้ในปีนี้วงเปลี่ยนไวป์ใหม่ๆ รับงานกลางวันในห้างมากขึ้น ออกตัวเป็นหน้าใหม่งานกลางวัน จากแต่เดิม 7-8 ที่ผ่านมา ไททศมิตร จะเล่นงานกลางคืนเป็นส่วนมาก

โดย หนุ่มจ๋าย ได้ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงาน THAI CONTENT EXPO 2025 หรือ TCX ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เผยถึงความรู้สึกดีใจและตกใจไม่คาดคิดว่ากลุ่มแฟนเพลงเจนใหม่จะเยอะขนาดนี้ ทำให้ในปีนี้วงเปลี่ยนแผนรับงานกลางวันมากขึ้น เพื่อเจอกลุ่มแฟนเพลงน้องๆ มัธยม พร้อมเผยถึงเรื่องที่หลายคนแซว มือกีต้าร์ หล่อและแมสกว่าแล้ว เจ้าตัวบอกไม่น้อยใจ แซวขำๆ เป็นมุขตลก ดีใจด้วยซ้ำที่สมาชิกในวงโดดเด่นเป็นที่รู้จักขึ้นมา

พร้อมกันนี้ ยังเผยถึงประเด็นดราม่าถกเถียง นักร้องควรร้องอวยพรแฮปปี้เบิร์ธเดย์ตามที่แฟนเพลงขอมาหรือไม่นั้น จ๋าย เผยมุมมองของตน ไม่เคยร้องอวยพรใครบนเวที ไม่ใช่ไม่มีน้ำใจ แต่ถ้าเป็นหลังเวทีใครมาขอถ่ายรูปและขอให้ร้องอวยพร ตนก็ยินดี แต่ในเรื่องของการโชว์บนเวที ขึ้นอยู่กับรูปแบบโชว์ของศิลปินแต่ละคนมากกว่า ใครสะดวกทำก็ทำ แต่ทั้งหมดแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยสื่อสารให้ชัดเจนตั้งแต่แรก

เล่นคอนเสิร์ตห้างแตก ?
“เป็นสิ่งที่ชุ่มฉ่ำหัวใจครับ มันได้ไวป์ใหม่ๆ ในการเล่นคอนเสิร์ต วงเรา 7-8 ปีที่ผ่านมา ทำงานหนักไปงานกลางซะส่วนใหญ่ ร้านเหล้า คอนเสิร์ตต่างๆ ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกับคนอีกแบบนึง หรือน้องๆ มัธยมจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูพวกผมเท่าไหร่ ในปีนี้เราเลยเปลี่ยนสไตล์ในการรับงานใหม่ บอกผู้จัดการเลยว่าเราอยากเล่นงานกลางวัน เราอยากรับงานในห้างมากขึ้นเพื่อที่จะไปเจอน้องๆ มัธยมมากขึ้น“

แฟนคลับเจนนี้เยอะมากเหมือนกัน ?
”ก็ตกใจเหมือนกันครับ ไม่คิดว่างานในห้างมันจะเยอะขนาดนี้ สนุกดีครับ จริงๆ ก็เป็นการตีตลาดด้วยครับ แต่เราไม่คิดว่ามันจะมีอยู่แล้ว เราไม่คิดว่าคนจะเยอะ เราเป็นหน้าใหม่ในงานกลางวันแล้วกัน แค่ได้มาเล่นในห้างได้ไวป์ใหม่ๆ เราก็ดีใจแล้ว“

คิดว่าเป็นเพราะอะไรที่มีแฟนคลับกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ?
”ผมว่าน่าจะหลายๆ อย่างรวมกัน ผลงานด้วยและการที่เรากระโดดไปตามสื่อต่างๆ ไปเล่นหนังบ้าง ไปเป็นโค้ชด้วย ล่าสุดมือกีต้าร์เราหล่อขึ้นมากด้วยทำให้วงโด่งดังขึ้น (หัวเราะ)“

เขาแซวว่าทำเพลงมาหลายปียังไม่แมสเท่ามือกีต้าร์เรา ?
”ใช่ครับ เล่นหนังมาหลายเรื่อง ข่าวมือกีต้าร์อยู่นานกว่าข่าวหนังอีกไม่ออกโรงสักที ตอนนี้ผมไม่เห็นตัวเองในติ๊กต็อกแล้วนะ เห็นแต่มือกีต้าร์ ไม่น้อยใจเลย เป็นมุขตลกแซวกันขำๆ เราแฮปปี้อยู่แล้ว จริงๆ ไม่ใช่แค่มือกีต้าร์อย่างเดียว เราก็อยากให้ทุกคนขึ้นมาแข็งแรง พูดตรงๆ ว่าตราบใดที่วงไม่แตก การที่สมาชิกวงทุกคนโดดเด่นหรือดังขึ้นมา มันก็ดีต่อวงหมด ปีนี้จะมีโปรเจ็กต์ใหม่ พยายามหาไวป์ใหม่ๆ มาให้กับคนฟังครับ ในเรื่องของประเด็นสังคมในตอนนั้นหรือว่าแนวคิดเราในตอนนั้นมันไปทัชชิ่งกับอะไร เราก็หาวิธีการนำเสนอที่คนจะเข้าใจได้ง่ายที่สุด“

จุดคาดหวังของวงเราในตอนนี้ ?
”ถ้าพูดถึงตอนนี้ปีนี้ผมก็ 33 ย่าง 34 แล้ว น่าจะอยู่ได้อีก 10 ปี หมายถึงว่าทำงานไหวอีก 10 ปี เราก็เลยตั้งเป้าว่า 10 ปีนี้ก็อยากไปได้ไกลมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้มองถึงโกลบอลเลย เราไม่ได้มีความคิดเรื่องโกลบอลหรือว่าโกทูเมืองนอกเลย เพราะว่าเจียมตัว ด้วยเนเจอร์ของวงแล้วด้วยเรารู้ว่าวงเราเหมาะกับไทยมากที่สุดแล้ว เราก็พุ่งเป้าไปที่ไทยเป็นหลักเลย ตอนนี้มันเริ่มกว้างมากขึ้นแล้ว ความจริงก็มีไอดอลตัวอย่างจากศิลปินรุ่นพี่ วงที่ประสบความสำเร็จ พี่ๆ บอดี้สแลม พี่ๆ คาราบาว พี่เสก โลโซ ที่เขาเคยทำมาตรฐานต่างๆ ไว้ ถ้ามีโอกาสเราทำได้ เราก็อยากไปถึง แต่ต่างประเทศเราไม่ได้มองเลยครับ ส่วนใหญ่การไปเล่นเมืองนอกของไททศมิตร ก็จะเป็นการที่พาทีมงานเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่า ไปทัวร์แล้วก็ได้ไปเที่ยวด้วย แต่ถามว่าไปเพื่อจะไปเติบโตมั้ย เราไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลยครับ เพราะว่าแม้แต่เพลงที่เราเขียน เวลาเขียนเพลงเราก็คิดถึงหน้าคนไทย เราไม่ได้เขียนให้ฝรั่งฟัง เมื่อไหร่ที่เราเขียนให้ฝรั่งหรือคนต่างชาติฟัง คนที่เป็นแฟนเพลงฐานเดิมเราเขาอาจจะไม่เก็ท ดังนั้นเราก็เลือกชัดไปเลยเอาแค่คนไทยให้มันกว้างขึ้น ถ้ามันจะฟลุ๊กแบบไปดังในต่างประเทศได้ก็แล้วแต่”

วางแผนอีก 10 ปีจะเกษียณกับงานเพลง ?
“ไม่แน่ใจว่าเกษียณมั้ย ผมว่าน่าจะเกษียณ 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้หรอก เพราะว่าวงเราให้ความสำคัญเรื่องการดูแลทีมงานเพื่อนๆ ด้วย อาจจะต้องดูอีกทีว่าทีมงานหรือเพื่อนๆ ผมเขามีอาชีพที่มั่นคงหรือมีทางไปได้มากกว่านี้มั้ย ถ้าเรายังมีความสุขที่ยังทำอยู่แต่อาจจะไม่หนักเท่านี้ พูดตรงๆ ว่าทุกวันนี้มันหนักมากนะ อาจจะไม่เข้มข้นเท่านี้ วงไม่ได้แตก ไม่ได้แยกวง แต่เราอาจจะพักวงไปเลย อาจจะมีคอนเสิร์ตนานๆ ทีทุกคนก็แยกย้ายไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง“

เป็นแค่การแพลนว่าอยากจะพัก เฟดออกจากการทำงานหนัก ?
”ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าเราเข้าใจธรรมชาติมากกว่า วันนั้นที่ผมอายุ 43 จะให้ผมมาพูดให้มันเทรนดิ้งเท่าอายุ 20 กว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขียนเพลงให้แมสเท่าน้องๆ อายุ 20 ที่เขาอยู่กับคนกับโซเชียลมากกว่าผม มันเป็นไปไม่ได้ ผมจะต้องเขียนเพลงอะไรแก่ๆ มา คนฟังก็แบบ อี๋แก่ เรารู้ตัวเองไง ผมว่าแฟนเพลงก็จะแก่ตาม เลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ไม่ค่อยมีเวลามาตามทุกคอนเสิร์ตอยู่แล้ว ดังนั้นผมว่ามันก็เป็นหมุดหมายที่ดีในแต่ละปีจัดคอนเสิร์ตบ้าง เราก็มาเจอกันตามงานต่างๆ ไม่ได้หายไปไหน”

ประเด็นร้อนที่นักร้องไม่ร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ให้กับแฟนเพลงที่ขอ วงเราเจอเหตุการณ์แบบนี้มั้ย ?
“เจอครับ แต่ว่าต้องพูดตรงๆ ว่าผมไม่เคยร้องเลยนะ ไม่ใช่ว่าไม่มีน้ำใจอะไร ถ้าหลังเวทีเดี๋ยวมาขอถ่าย น้องๆ ก็มาขอแฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ เราร้องให้ แต่พอบนเวทีมันเป็นโชว์ครับ ต้องเข้าใจตรงนี้ ในมุมมองของแต่ละคนก็ต่างกัน เพราะว่าโชว์ของแต่ละคนก็ต่างกัน เช่น โชว์ของนักร้องบางคนอาจจะมีอาจจะมีการยืดหยุ่น ร้องไปแล้วหยุดแล้วพูดคุยกับคนดู แล้วก็สามารถร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์ได้ แต่นักร้องหรือศิลปินบางท่าน บางทีโชว์เขาร้อยมา 1 ชั่วโมง 15 นาทียาวเลย เขาวางไดนามิกโชว์ไว้แล้ว ไม่มีการหยุดพูด ไม่มีการหยุดคุย มันก็อาจจะทำให้ไดนามิกที่เขาเรียงมาโชว์ของเขามันเสีย แล้วพอไดนามิกโชว์มันเสียหรือว่าโชว์ไม่ดี เราก็อธิบายกับเจ้าของร้านหรือแฟนเพลงไม่ได้ว่าโทษทีวันนี้เล่นไม่ดีเพราะต้องร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์นะ มันก็พูดไม่ได้ โทษทีร้องไม่ดี มันกร่อยไปช่วงหนึ่งเพราะเราต้องพักจับมือคนดูก่อนนะ สำหรับบางวงนะครับ มันก็ไม่สามารถอธิบายได้ ผมว่ามันอยู่ที่รูปแบบของศิลปินแต่ละคนมากกว่า ใครสะดวกทำก็ทำ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลสามารถแก้ได้โดยถ้ามันเกิดการคุยกันตั้งแต่แรก สมมุติว่าเจ้าของร้านดีลไปเลยว่า ขอให้ร้องได้ไหม ศิลปินจะได้เตรียมตัว หรือร้องไม่ได้ ร้านก็จะได้เตรียมตัว ก็จะได้บอก ผมว่ามันแก้ไขได้”

กับคำที่ว่า เสียเวลาแค่ 1 นาทีร้องไม่ได้เหรอ มองอย่างไร ?
“ใช่ แต่มันหลายคนไงครับ มันก็ตอบแทนลูกค้าทั้งหมดไม่ได้ คำถามคือถ้าจ่ายค่าบัตรเท่ากัน สมมุติว่าในร้านมี 100 คน 60 คนโอเคเลย แต่ 40 คนที่เหลือเขาก็ไม่ได้จ่ายค่าบัตรน้อยกว่าใช่ไหม แล้วถามว่ามันถูกแจ้งตั้งแต่แรกไหมว่าจะมีการหยุดเพื่อคนๆ นี้ ผมว่ามันก็อาจจะไม่แฟร์นิดนึงแต่อย่างที่บอกครับอยู่ที่รูปแบบโชว์ ถ้ารูปแบบโชว์มันเป็นกันเองแล้วไหลลื่น ไม่ต้องเป็นโชว์แสดงขนาดนั้นผมว่ามันก็ร้องได้ ผมว่ามันอยู่ที่รูปแบบโชว์มากกว่า”

กระแสมาแรงข่าววงการพระ คนเอาไปเล่นคำกับหนังเดอะสโตนฯ
พระแท้ คนเก๊ กับพระเก๊ คนแท้ ?
”จริงๆ แล้วเดอะสโตนไม่ได้พูดประเด็นใหม่ เป็นประเด็นที่เรารู้กันอยู่แล้วในหน้าข่าวตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนนี้อาจจะมีข่าวเยอะหน่อย เรื่องของข่าวทางฝั่งของสงฆ์ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่สร้างความสั่นสะเทือนสำหรับคนพุทธ แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่ประเด็นแปลกใหม่อะไร เรารู้อยู่แล้วล่ะว่ามันมีแบบนี้ มันแค่ไม่ถูกขุดขึ้นมาพูดถึงหรือว่าไม่ถูกจับจริงๆ จังๆ กันสักที ไม่ว่าจะวงการสงฆ์หรือวงการไหนก็แล้วแต่ คนที่มีอำนาจอยู่ในองค์กรของตัวเองควรจะต้องสังคายนาหาวิธีการจัดการองค์กรของตัวเองให้มันเรียบร้อยเด็ดขาด ผมสงสารคนที่ทำดี สงสำตำรวจดีๆ ทหารดีๆ ที่เขาทำดีอยู่แล้ว ผมสงสารพระดี ๆ ที่ปฏิบัติดีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องได้รับลูกหลงในสิ่งนี้ไปด้วย ถามว่าหมดศรัทธามั้ย ไม่เลย จริงๆ แล้วหลักพุทธก็ไม่ได้สอนให้ผมศรัทธาในตัวพระเป็นบุคคลอยู่แล้ว ผมนับถือศาสนาพุทธ เราก็ศรัทธาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ได้ยึดถือในตัวบุคคล เพราะมนุษย์มันมีเสื่อมแม้แต่พระยังเสื่อมเลย ตัวเราก็เสื่อม อะไรที่เราเคยทำดีแล้ว พรุ่งนี้ผมอาจจะไม่ดีแล้วก็ได้“