เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จ.ชลบุรี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม (กธ.) แถลงถึงยุทธศาสตร์และทิศทางของพรรคกล้าธรรม ในฐานะพรรคทางเลือกใหม่ของประชาชน พร้อมเปิดใจถึงจุดยืน อุดมการณ์ และความตั้งใจที่จะยกระดับพรรคการเมืองให้เป็น “สถาบันทางการเมือง” ที่ประชาชนสามารถพึ่งพาได้อย่างแท้จริงในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤตความไม่เชื่อมั่น และสูญญากาศทางการเมือง โดยปัญหาที่ผ่านมาคือเรื่องของการสื่อสารซึ่งพรรคกล้าทำต้องทำจริงและยืนหยัดอธิบายต่อสังคมด้วยความมั่นใจ ตรงนี้คือดีเอ็นเอของพรรคกล้าธรรมคือต้องกล้าทำและทำจริง
การกลับมาอยู่การเมืองในวัยเกษียณของตนเพราะยังมีไฟ และมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ทำเพื่อประเทศชาติให้ประชาชนและสมาชิกพรรคกล้าทำทุกคนคือสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่ การเป็นนักการเมืองที่ดีต้องรู้และเท่าทันสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ประเทศเข้าสู่ภาวะสุญญากาศ การขาดเสถียรภาพ ส่งผลกระทบทำให้เกิดความไม่มั่นใจทางเศรษฐกิจและสังคม ช่วงเวลานี้คือเวลาแห่งความรับผิดชอบที่พรรคกล้าธรรม ต้องแสดงบทบาทให้ประชาชนเห็นว่า เราต้องยืนหยัดให้ได้ในวันที่สังคมสับสน และพายุโหมกระหน่ำ เราต้องเป็นร่มเงาให้ประชาชน โดยต้องลงประชาชนและทำงานอย่างจริงจัง
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เหตุผลในการเข้าร่วมพรรคกล้าธรรม ตลอดเส้นทางการเมือง 20 ปี ถูกปฏิวัติ2ครั้ง ถูกจับปรับทัศนคติ เป็นทั้งสส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล และเติบโตเป็นรัฐมนตรีว่าการ เป็นเลขาธิการพรรคใหญ่ เคยผ่านมาทั้งหมด เป็นนักบินเอฟ 16 และไม่เคยมีใครเชื่อว่าจะลาออกจากกองทัพ จากอาชีพที่มั่นคงเข้าสู่สนามการเมือง และที่ลาออกเพราะเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเชื่อมั่นในระบบการปกครองของประเทศ จึงเชื่อว่าการเป็นนักการเมืองจะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมากกว่าเป็นทหาร และมองเห็นความทุกข์ของประชาชนสามารถแก้ไขความเข้มแข็งของการเมือง และไม่เคยคิดใช้การเมืองเป็นบันไดหาประโยชน์ส่วนตัว แต่การเมืองมีข้อจำกัด และการเมืองที่ดีจะถูกตั้งคำถามตลอดว่าจะเกิดได้อย่างไร
ที่เลือกพรรคกล้าธรรมเพราะใช้หัวใจนำทาง โดยคุยกับเลขาฯพรรค และผู้บริหารพรรค เรามีดีเอ็นเอเหมือนกันที่จะอยู่ข้างและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะแนวคิดที่ว่าไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน มีแต่ประชาชน ที่เป็นแนวคิดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนตามหามาทั้งชีวิตการเมือง
“พรรคกล้าธรรม ไม่ใช่พรรคที่ยึดติดกับภาพลักษณ์ ไม่ได้เล่นการเมืองบนเวทีโซเชียลหรือปราศรัยเพื่อคะแนนนิยม แต่คือพรรคที่ “กล้าทำ และทำจริง” โดยลงพื้นที่จริง รับฟังประชาชนจริง และผลักดันการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเราจะไม่เป็นแค่พรรคที่ดีแต่พูด แต่เราจะเป็นพรรคที่ลงมือทำ และทำให้เห็น” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า บทบาทประธานยุทธศาสตร์พรรคว่า บทบาทของตนไม่ใช่เพื่อความสง่างามทางตำแหน่ง แต่คือภาระและหน้าที่ในการวางรากฐานยุทธศาสตร์พรรค สร้างระบบการทำงานที่แก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง โดยจับมือกับทีมปฏิบัติการที่แข็งแกร่ง เช่น นายการุณ โหสกุล ผู้ช่วยประธานยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นกำลังหลักในภาคสนาม เพราะถ้ามีฝ่ายบุ๋น ก็ต้องมีฝ่ายบู๊ พรรคเรามีทั้งมือซ้ายและมือขวา และพร้อมบินฝ่าพายุไปด้วยกัน
ส่วนการวางแผนสำหรับการเลือกตั้งปี 2570 พรรคกล้าธรรม จะส่งผู้สมัครครบทุกเขตในการเลือกตั้งปี 2570 แต่ไม่ใช่การส่งคนเพียงเพื่อแสดงสัญลักษณ์ แต่จะเฟ้นหาผู้แทนที่พร้อมอุทิศตนเพื่อประชาชน เป็นผู้แทนที่ เก่ง มีใจ และมีจริยธรรม เป้าหมายของพรรคคือการยกระดับจากพรรคการเมืองทั่วไป ไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืน และมีบทบาทจริงในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย อยากให้ทุกคนเชื่อในตัวเอง และชูมือเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเราจะเดินไปด้วยกัน
ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ยกมือชูขึ้น และขอให้ กก.บห. , ส.ส. และสมาชิกพรรคกล้าธรรม ยกมือขึ้นเพื่อแสดงสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือ พร้อมประกาศคำมั่นว่า พรรคกล้าธรรมจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจะตื่นมาทุกวันเพื่อหาทางออกให้ประชาชน สร้างความเชื่อมั่น และเพื่อทำงานอย่างเต็มพลัง ด้วย DNA ของคนกล้าธรรม
