ยานนิก ซินเนอร์ นักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลก ชาวอิตาเลียน ล้างแค้นให้กับความปราชัยในศึกเฟรนช์ โอเพน 2025 รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ จาก สเปน 3-1 เซต ด้วยสกอร์ 4-6, 6-4, 6-4 และ 6-4 คว้าแชมป์วิมเบิลดัน สมัยแรก ในการแข่ขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดย ซินเนอร์ กลายเป็นแชมป์ชาวอิตาเลียนคนแรกที่เข้าวินในประเภทชายเดี่ยว ที่ออลล์ อิงแลนด์ คลับ ขยับสถิติเป็นแชมป์แกรนด์ สแลม 4 สมัย (วิมเบิลดัน 1 สมัย) ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น
รอบชิงชนะเลิศ ยานนิก ซินเนอร์ ยังคงเล่นได้อย่างเยือกเย็น นับตั้งแต่เสียเซตแรกไปก่อน สามารถพลิกสถานการณ์อย่างรวดเร็ว และปิดแมตช์ด้วยเวลารวมนานกว่า 3 ชั่วโมง
นักหวดอิตาลี ปล่อย 3 แชมเปียนชิพ พอยต์ หลุดมือ ที่โรลังด์ การ์รอส ในรายการเฟรนช์ โอเพ่น เมื่อช่วง 5 สัปดาห์ก่อน แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่ยอมพลาดซ้ำสอง รักษาเกมเสิร์ฟเพื่อเก็บชัยชนะใน แชมเปียนชิพ พอยต์ ที่ 2
“เป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าอัศจรรย์ ขอขอบคุณความเป็นผู้เล่นในแบบของคุณ (อัลคาราซ) มันยากมากเมื่อต้องดวลกับคุณ แต่เรามีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทั้งในและนอกสนาม พยายามต่อไป แล้วคุณจะชูถ้วยใบนี้อีกหลายสมัย ตอนนี้คุณได้แล้ว 2” ซินเนอร์ กล่าว
ในเวลานี้วงการลูกสักหลาดกำลังจับตาความเป็นคู่ปรับคู่ใหม่ของวง หลังหมดยุค “BIG 3” ของนักเทนนิสรุ่นเก๋า ทั้ง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล และโนวัค ยอโควิช ซึ่งปัจจุบัน ซินเนอร์ กับ อัลคาราซ ผลัดกันคว้าแชมป์แกรนด์ สแลม 7 ครั้งล่าสุด โดยฝ่ายแรกทำไป 4 ครั้ง
“เราพยายามเรียนรู้ความพ่ายแพ้ แล้วเดินหน้าต่อ แน่นอนว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมคว้าแชมป์ที่นี่ ผมโชคดีที่ร่างกายฟิตสมบูรณ์ และมีบุคคลเก่งๆ รอบตัว การเป็นแชมป์รายการนี้มีความหมายอย่างยิ่ง” เจ้าของแชมป์วิมเบิลดัน คนล่าสุด กล่าวปิดท้าย