ภูมิธรรม ปฏิเสธข่าวสหรัฐฯ ขอใช้ฐานทัพเรือทับละมุ เผยเป็นข่าวปลอมสร้างความเสียหาย พร้อมประกาศเร่งโยกย้ายข้าราชการ มท. ให้เสร็จ ส.ค. นี้ เตือนใครเกียร์ว่าง เจอดำเนินคดี
(วันที่ 15 กรกฎาคม 2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อกระแสข่าวที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ยื่นข้อเสนอขอใช้ฐานทัพเรือทับละมุ จ.พังงา โดยระบุว่าเป็นข่าวที่ถูกกุขึ้นและสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมาก
พร้อมกันนี้ได้ประกาศจะเร่งรัดการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยเตือนว่าหากใครทำงานแบบ เกียร์ว่าง จะถูกดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นายภูมิธรรมแสดงความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อกระแสข่าวดังกล่าว “ผมอยากให้การเสนอข่าวใช้ความระมัดระวัง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ ประเทศจะเสียหาย เป็นเรื่องที่ผมไม่สบายใจ ถ้าบอกว่าผมไปพูดแบบนี้ ผมเสียหายมาก” โดยยืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้กับสหรัฐฯ และไม่เคยรับรู้เรื่องนี้ในโต๊ะเจรจาการค้า ส่วนประเด็นเรื่องท่าเรือทับละมุนั้น เป็นความต้องการของกองทัพเรือเองที่อยากมีฐานทัพฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นเรื่องแผนงานภายในของกองทัพที่ต้องพิจารณางบประมาณ ไม่ใช่ข้อเสนอจากสหรัฐฯ
นายภูมิธรรมได้ประกาศว่า จะเร่งรัดกระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม หรืออย่างช้าไม่เกินกลางเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเร็วกว่าธรรมเนียมปฏิบัติเดิมที่มักจะเสร็จสิ้นในเดือนกันยายน โดยให้เหตุผลว่า “ขณะนี้ปัญหาเยอะ” และต้องการให้ข้าราชการที่ได้รับตำแหน่งใหม่สามารถเริ่มปฏิบัติงานได้ทันทีในวันที่ 1 ตุลาคม
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า “ถ้าพบตรงไหนมีเรื่องไม่ชอบธรรมก็ต้องพิจารณา ถ้ามีปัญหาตรงไหนก็จะย้ายตรงนั้น และหากใครเกียร์ว่าง แสดงว่าผิดกฎหมายมาตรา 157 ซึ่งส่วนตัวจะดำเนินคดีอาญาด้วยซ้ำไป หากมีข้อมูลที่ชัดเจน” พร้อมระบุว่ากำลังพิจารณาหลายเรื่องรวมถึงกรณีที่ดินเขากระโดงและที่ดินอัลไพน์
ก่อนการให้สัมภาษณ์ นายภูมิธรรมได้รับหนังสือจากตัวแทนภาคประชาชนเกี่ยวกับปัญหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการและให้อธิบดีกรมที่ดินตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยให้ชี้แจงกลับมาภายใน 7 วัน เพื่อสร้างความชัดเจนตามคำสั่งศาลฎีกาและศาลปกครอง และหากคำชี้แจงไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็จะมีการตั้งกรรมการสอบเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
