เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ก.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติออกหมายจับ สีกากอล์ฟ ในข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มาตรา 147 ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน รับของโจร หลังพบเส้นทางการเงินของ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินให้ 3.8 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินจากบัญชีของวัดว่า หลังไปดูข้อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 เห็นช่องทางที่จะเอาผิดได้ มีการข่มขู่เพื่อรีดทรัพย์ โดยทำเป็นปกติธุระ จะเข้ามาตรา 3 กฎหมายการฟอกเงิน ซึ่งสามารถเอาผิดเพิ่มได้ เป็นข้อหาหนัก มีการข่มขู่รีดทรัพย์ เพราะดูจากที่เป็นข่าว ไม่ต้องดูหลักฐานก็ชัด เชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นกรณีตัวอย่างกรณีแรกที่เป็นตัวบ่อนทำลายศาสนา เพื่อไม่ให้มีใครกล้าทำตาม ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องพูดคุยกับพนักงานสอบสวน เราไม่ได้ดูรายละเอียดลึก 

เมื่อถามว่า ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเร็วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เราต้องการแบบนั้น เพราะไม่อยากให้เป็นตัวอย่าง หรือเอาไปทำลักษณะนี้อีกต่อไป ใครทำผิดก็ต้องจับทันที ต้องมีโทษรุนแรง คนอื่นจะไม่ได้กล้า  ศาสนาพุทธจะต้องเรียกศรัทธากลับคืนมา ไม่ใช่จะมีแต่ข่าวแบบนี้ 

เมื่อถามว่า วันนี้พระผู้ใหญ่ยอมสึกเพิ่มเติมอีกหลายรูป นายสุชาติ กล่าวว่า ถ้าทำผิดก็ควรจะสึกแล้ว ไม่ต้องไปรอจับสึก ท่านต้องรู้ตัวเอง เป็นถึงพระชั้นผู้ใหญ่ด้วย 

เมื่อถามว่า  พระบางรูปไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องของความสัมพันธ์  แต่เป็นการโอนเงินเข้าไปให้  นายสุชาติ กล่าวว่า ก็ไม่ได้  เพราะไม่ใช่เงินพระ แต่เป็นทรัพย์ของวัดที่ได้มาจากคนทำบุญเพื่อให้ไปทำนุบำรุงศาสนา จะเอาส่วนตัวมาจากไหน เป็นเงินทำบุญจากชาวบ้านทั้งนั้น พระไม่ควรถือครองเงิน ควรจะสมรรถะมีเท่าที่พอใช้กินอยู่ตามปัจจัยสี่

ทั้งนี้ระหว่างที่นายสุชาติจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เป็นจังหวะเดียวกับที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินลงมาจากตึกบัญชาการเพื่อไปตึกคู่ฟ้า นายสุชาติได้ยกมือสวัสดีและพูดว่า เรื่องพระตามที่ท่านสั่ง ได้ทำตามที่ท่านสั่งแล้ว  จากนั้นน.ส.แพทองธาร หัวเราะและยกมือรับไหว้นายสุชาติ