จเรตำรวจแห่งชาติ เตือนคนไทยอย่าขายชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทษหนัก จำคุกสูงสุด 119 ปี ล่าสุดจับ 6 คนส่งกลับจากกัมพูชา
วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยล่าสุดทางการกัมพูชาได้ส่งตัวคนไทยกลับมายังประเทศไทยจำนวน 6 ราย ซึ่งสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ
สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ถูกส่งตัวกลับ ประกอบด้วย
เบื้องต้นได้มอบหมายให้ตำรวจจากหลายหน่วยงาน เช่น สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, สน.ลุมพินี, สน.ดอนเมือง, สน.หัวหมาก, ตรวจคนเข้าเมือง 2, ตำรวจท่องเที่ยว 1, ปคม. และ บช.ก. รับตัวไปสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบการกระทำผิดจะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย พร้อมขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
โทษหนักถึง 119 ปี เตือนแรงอย่าเป็นคนไทยขายชาติพล.ต.อ.ธัชชัย เน้นย้ำว่า การร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และมีโทษรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชี หรือ “บัญชีม้า” รวมถึงผู้จัดหาคนร่วมเครือข่าย
ล่าสุดมีคดีตัวอย่างที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยชาวไทย 6 ราย ถูกตัดสินจำคุกดังนี้
บัญชีม้า 4 ราย: จำคุกรายละ 41 ปี 243–258 เดือน
ธุระจัดหาฯ 2 ราย: จำคุกสูงสุด 119 ปี 234 เดือน แต่ตามกฎหมายจำคุกได้สูงสุดไม่เกิน 50 ปี (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3))
พร้อมมีคำสั่ง ยึดทรัพย์รถยนต์ 4 คัน และของกลางอื่น ๆ คืนให้ผู้เสียหาย 39 ราย รวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก หรือเป็นเพียงแค่คนเปิดบัญชีให้เขาใช้ การเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โทษหนัก จำคุกหลายสิบปี และไม่คุ้มกับอนาคตที่ต้องสูญเสีย”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อหลอกลวงจากขบวนการมิจฉาชีพ และอย่าร่วมเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการรับจ้างเปิดบัญชีที่อาจกลายเป็น “บัญชีม้า” และนำไปสู่การถูกดำเนินคดีอาญาในภายหลัง.
