“CBS Cafe by PTG สาขาแรก เกิดจากวิสัยทัศน์และความตั้งใจของคุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG และท่านคณบดี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ต้องการสร้างต้นแบบการเรียนรู้โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติแบบ CBS’s Mastering-based Learning ภายใต้การสนับสนุนอย่างมากจาก PTG ทำให้ CBS มั่นใจและมุ่งมั่นที่จะเป็นมากกว่า Business School ด้วยการประกาศเป็นมหาวิทยาลัยแรกของโลกที่พร้อมจะเป็น The Real Business in The Schools” รศ.ศรัณย์ ชูเกียรติ ประธานกรรมการ บริษัท จุฬา บิซิเนส เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด กล่าว

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท จุฬา บิซิเนส เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด ประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ผ่านการลงนามสัญญาร่วมทุนจัดตั้งกิจการเพื่อสังคม ในการพัฒนาต้นแบบการเรียนรู้ธุรกิจร้านกาแฟแบบครบวงจร ภายใต้โครงการ “กิจการร่วมค้า CBS Cafe by PTG” เปิดโอกาสให้นิสิตสัมผัสประสบการณ์การดำเนินธุรกิจจริงในทุกมิติ เตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้ประกอบการหรือผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพในอนาคต โดยนำกำไรสุทธิทั้งหมดจากการดำเนินงานไปใช้ในกิจกรรมเพื่อสังคม สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมควบคู่การพัฒนาศักยภาพของนิสิตอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ข้าวโอ๊ต ศตพร ดีสมจิตร นิสิตรุ่นพี่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่าความประทับใจที่ได้ร่วมเรียนรู้ธุรกิจกับ CBS Cafe by PTG ว่า “การมี Sandbox ให้เราลองทำธุรกิจเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก โครงการนี้จึงเป็นสถานที่ที่ทำให้เราเรียนรู้และลองทำ โดยมีที่ปรึกษาเป็นผู้ใหญ่เก่งๆ มากมายคอยช่วยตรวจสอบและให้คำปรึกษาใกล้ชิด ทำให้เราไม่เสี่ยงเกินไป เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ไม่ได้หากันง่ายๆ

“นอกจากนี้ได้มีโอกาสลองทำกาแฟพันธุ์ไทย ไปเรียนฝึกทำกาแฟที่สำนักงาน พบว่าแม้แต่การทำกาแฟก็ไม่ง่ายเลย พนักงานต้องละเอียดมากๆ ประสบการณ์นี้ทำให้เราเข้าใจพนักงานมากขึ้นและเป็นรากฐานที่ดีในการเป็นนักธุรกิจในอนาคต เพราะการที่เราเข้าใจตั้งแต่ระดับพนักงานภาคปฏิบัติเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก อย่างน้อยต่อให้เราไม่ได้เป็นนักธุรกิจในอนาคต เราก็ได้เป็นพลเมืองที่ดีและเป็นบัณฑิตที่มี Empathy ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน” ศตพรกล่าว

ด้าน บี ณัฐริกา อาจหาญ ศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่าประสบการณ์ที่เคยร่วมเรียนรู้ในโครงการนี้ว่า “การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริงทำให้เราเห็นภาพทฤษฎีที่เราเรียนมาชัดเจนมากขึ้น เห็นภาพว่ากระบวนการเป็นอย่างไร ทฤษฎีต่างๆ ใช้ได้จริงหรือไม่ ประสบการณ์การทำงานที่พันธุ์ไทยเรามองว่าคงไม่ง่ายที่จะได้ลองเป็นคน Manage Store ต้นทุน หรือดูระบบหลังบ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนการสะสมประสบการณ์ แม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแต่ในอนาคตจะเชื่อมกันเอง ขอบคุณพันธุ์ไทยที่มอบโอกาสดีๆ ให้ทางคณะและรุ่นน้องของหนู หวังว่าโครงการนี้จะเป็นโอกาสที่ช่วยยกระดับทางการศึกษาที่ดีให้คณะของเราเป็น Real Business School ที่ไม่ใช่แค่เรียนแต่มีโอกาสลงมือทำจริง”