น้ำที่เชียงดาวผ่านจุดสูงสุดแล้วเมื่อ 11 โมงและลดระดับลงต่อเนื่อง ปริมาณน้ำพีคสุดที่ 335.50 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดถึงสะพานนวรัฐ บ่าย 2 วันที่ 17 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชลประทานเชียงใหม่ เปิดประตูระบายน้ำ เร่งระบายน้ำในแม่น้ำปิง เพื่อรองรับมวลน้ำ ตัวเมืองเชียงใหม่เชื่อไม่ได้รับผลกระทบ มีพื้นที่ท้ายจุด P.20 บ้านสบคาบ น้ำท่วมกว่า 200 ไร่ พื้นที่ท่วมประจำเสมือนเป็นแกล้งลิงหน่วงน้ำเข้าเชียงใหม่

วันที่ 16 ก.ค. 68 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ สั่งการให้ นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำปิง ภายหลังจากที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. เป็นต้นมา โดยพบว่ามีปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงที่สูงขึ้น ประกอบกับในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีน้ำท่วมในพื้นที่ด้วย

จากการลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำท่าวังตาล ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ นายกิจพล สิงห์ภักดี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำจำนวน 2 ช่องบาน เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำปิง ลงไปสู่ด้านท้ายน้ำ และได้มีการสั่งการให้เปิดประตูระบายน้ำฝายดอยน้อย และประตูระบายน้ำแม่สอย ที่อยู่ท้ายน้ำ เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า เพื่อจะไหลต่อไปยังเขื่อนภูมิพล ซึ่งจะเป็นการพร่องน้ำในแม่น้ำปิงที่จะรองรับน้ำจากทางต้นน้ำที่จะไหลมาจากอำเภอเชียงดาว

ด้าน นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานเชียงใหม่ (จน.คป.เชียงใหม่) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีฝนตกในพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งในเขตลุ่มน้ำโขงเหนือ พื้นที่ อ.ฝาง อ.แม่อาย อ.ไชยปราการ ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และคืนที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีฝนตกหนักมากหลายพื้นที่ มีฝนตกสะสม 24 ชั่วโมง วัดในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ซึ่งวัดปริมาณฝนที่ตำบลทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว 135 มม. นอกจากนี้ยังพบว่าหลายพื้นที่ตอนต้นลุ่มแม่น้ำปิงมีฝนตกหนักมาก เกิน 100 มม. สำหรับพื้นที่ อ.เชียงดาว เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ต.เมืองนะ ต.เชียงดาว และต.ทุ่งข้าวพวง

“ฝนที่ตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนทำให้แม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นล้นตลิ่ง จากการวัดน้ำปิง ที่ไหลผ่านที่จุดวัดน้ำ P.20 จุดตั้งบนสะพานหลังวัดอินทาราม ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ช่วงเช้าวันนี้วัดได้ 329.5 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งทำให้ระดับน้ำปิงอยู่ที่ 3.17 เมตร สูงกว่าระดับน้ำปรกติ 37 ซม. ซึ่งศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคเหนือตอนบน ประเมินคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำสูงสุดจะอยู่ที่ 3.60 เมตร หลังจากนั้นปริมาณน้ำจะค่อยๆ ลดลง จะให้ให้มวลน้ำที่เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรสองฝั่งแม่น้ำปิง ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ค่อยๆ ลดลง”

ในส่วนการรับมือน้ำหลาก นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันได้มีการเพิ่มการระบายน้ำปิงทางตอนใต้ตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 107.62 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อที่จะพร่องน้ำออกรองรับน้ำเหนือที่มาจากพื้นที่ อ.เชียงดาว ซึ่งได้มีการติดตามปริมาณน้ำจากอำเภอเชียงดาวจนถึงจุดวัดระดับน้ำปิง P1 สะพานนวรัฐ ปัจจุบันปริมาณน้ำปิงที่สะพานนวรัฐมีปริมาณมากอยู่ที่ 86 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

นอกจากจะมีการเร่งระบายแม่น้ำปิงในเขตตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ยังได้เร่งระบายน้ำปิง ที่ประตูระบายน้ำดอยน้อย อ.ดอยหล่อ ทางตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ จากช่วงเช้าได้มีการระบายน้ำประมาณ 80 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มการระบายน้ำเป็น 107.92 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนประตูระบายน้ำแม่สอย อ.จอมทอง ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำสุดท้ายก่อนถึงทะเลสาบดอยเต่า ช่วงเช้าได้มีการระบายน้ำ 100 กว่า ลบ.ม.วินาที ได้มีการเพิ่มการระบายน้ำ 160 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อพร่องน้ำรับน้ำเหนือ

“อย่างไรก็ตามทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้แจ้งเตือนสถานีสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้า และกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังว่าจะมีน้ำหลากมาจากพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำปิง เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ผูกมัดกระชังปลาให้แข็งแรง ส่วนมวลน้ำที่ท่วมพื้นที่อำเภอเชียงดาวแล้วไหลลงแม่น้ำปิงคาดว่าจะส่งผลกระทบกับบางจุดริมตลิ่งในพื้นที่อำเภอเชียงอาว อำเภอแม่แตง บางส่วน สำหรับพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมวลน้ำทั้งหมดอยู่ในลำน้ำแม่ปิง”

ต่อมาในช่วงบ่าย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำแม่ปิงที่จุดวัดน้ำ P.20 ต.เชียงดาว พบว่าระดับน้ำปิงลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ระดับน้ำผ่านจุดสูงที่สุดไปแล้วที่ ระดับน้ำ 3.22 เมตร ที่ปริมาณ 335.50 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำวัดได้ 3.12 เมตร คาดมวลน้ำทั้งหมดจะถึงจุดวัดระดับน้ำปิง P1 สะพานนวรัฐ บ่าย 2 โมงของวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบกับตัวเมืองเชียงใหม่ แต่จะส่งผลกระทบพื้นที่ทางตอนท้ายบ้านสบคาบ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดริมตลิ่งแม่น้ำปิง จะได้รับผลกระทบประมาณ 200 ไร่

ทั้งนี้บริเวณบ้านสบคาบ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่รับส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมมีบริเวณกว้าง หากน้ำปิงในพื้นที่ อ.เชียงดาว เพิ่มระดับกระทั่งเกินระดับตลิ่งที่จุดวัดน้ำ P.20 บริเวณบ้านสบคาบจะเป็นเสมือนแกล้มลิงที่หน่วงน้ำปริมาณมากๆ จากเชียงดาวก่อนจะไหลเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งแม่ปิงจะมีจุดที่แคบมากบริเวณก่อนถึงด่านแก่งปันเต้า จะเป็นจุดดักน้ำในปริมาณมากๆ จากพื้นที่เชียงดาวที่จะหลากลงมาด้านท้ายเข้าตัวเมืองเชียงใหม่